เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก A6 ใหม่ถูกตกแต่งให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์การออกแบบของ Audi ที่เห็นแค่แวบเดียวก็บอกยี่ห้อได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบเฟรมเดี่ยว สวมบอดี้คิทที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ปรับดีไซน์ท่อไอเสียใหม่และมีไฟหน้าสุดล้ำ Matrix LED เป็นอ็อปชั่นเสริมพิเศษ
ภายในห้องโดยสารของ A6 โดดเด่นด้วยระบบ MMI Navigational Plus แสดงผลผ่านหน้าจอแปดนิ้ว เทคโนโลยีภายในตัวรถควบคุมด้วยชิพความเร็วสูง Nvidia Tegra 30 ทาง Audi เคลมด้วยว่าระบบเชื่อมต่อ Connect มีความเร็วถึงระดับ LTE เลยทีเดียว นอกจากนี้ ในห้องโดยสารยังมีอ็อปชั่นเสริมพิเศษอย่างเบาะแบบมีรูระบายความร้อนที่มีฟังก์ชั่นนวดตัวได้

มาดูกันที่ไฮไลท์สำคัญ คือเครื่องยนต์ที่มีบล็อกเบนซินถึงสามรุ่นและดีเซลถึงห้ารุ่นให้เลือกสรรกันอย่างจุใจ พละกำลังมีตั้งแต่ 190 – 333 แรงม้าสำหรับเบนซินและ 150 – 326 แรงม้าสำหรับดีเซล
รุ่นเบนซินที่ประหยัดที่สุดคือ 1.8 TFSI ที่มีอัตราบริโภคน้ำมัน 17.5 กม./ลิตร ปล่อยไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 133 กรัม/กม. ขณะที่รุ่นดีเซล 2.0 TDI กินน้ำมัน 23.8 กม./ลิตร ปล่อยไอเสียต่ำ 109 กรัม/กม.
ระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT ที่บางคนร้องยี้ถูกถอดทิ้งไปแล้วแทนที่ด้วยระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบ 7 สปีดในทุกรุ่นและมีระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกใช้ด้วย ส่วนตัวท็อป quattro AWD จะใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติทอร์กคอนเวอร์เตอร์แบบ 8 สปีด

คนที่ชื่นชอบความเร็วสามารถเลือกรหัสแรง S6 มาพร้อมขุมพลัง V8 TFSI เทอร์โบคู่ พละกำลัง 450 แรงม้าและยังมี RS6 ที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันแต่อัพเกรดความแรงขึ้นไปถึง 560 แรงม้า


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldcarfans
โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ผู้ผลิตรถยนต์ของมหาชนจากเยอรมัน เปิดตัวรถยนต์ขนาดกลางรุ่นสานต่อความสำเร็จของค่ายอย่าง โฟล์กสวาเกน พาสสาท (Volkswagen Passat) ด้วยดีไซน์ใหม่อันสวยสดสไตล์ยุโรป พร้อมเครื่องยนต์และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมสมกับชื่อชั้นของโฟล์กสวาเกนเช่นเคย
ดีไซน์ใหม่ของโฟล์กสวาเกน พาสสาท เน้นไปที่ความสวยทันสมัยมากขึ้น ตั้งแต่ด้านหน้าของรถที่สวยงามด้วยกระจังหน้าและไฟหน้าเป็นเส้นตรงแนวเดียวกันเข้ากับรูปทรงฝากระโปรงที่โค้งมน ทำให้ตัวรถดูกว้างขวาง ด้านข้างออกแบบปราดเปรียวทั้งในรุ่นซีดานและแวกอน โชว์เส้นสายตั้งแต่บริเวณมือจับประตูไปจนถึงไฟท้าย ส่วนด้านท้ายโชว์รูปร่างเรียบหรูด้วยไฟท้ายขนาดพอเหมาะบนมุม ระบบส่องสว่างทั้งคันยังทำมาจาก LED เพิ่มความโดดเด่นในการมองเห็น มิติรถยาว 4,767 มิลลิเมตร กว้าง 1,832 มิลลิเมตร และสูง 1,456 มิลลิเมตร ฐานล้อกว้าง 2,791 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 1,312 กิโลกรัม นับว่าเบามากทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถในระดับเดียวกัน

ภายในของโฟล์กสวาเกน พาสสาท เน้นความสวยงามทันสมัย จัดเต็มอุปกรณ์การใช้งานครบเครื่อง และพื้นที่ภายในกว้างขวาง ทั้งหน้าจอแสดงมาตรวัดแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว แบบเดียวกับใน ออดี้ ทีที (Audi TT) แสดงข้อมูลต่าง ๆ ได้ชัดเจนสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมกับหน้าจอ HUD ลดการละสายตาจากถนน คอนโซลกลางยังมีหน้าจอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่มาให้ด้วย เบาะนั่งและคอนโซลต่าง ๆ ทำจากหนังอย่างดีมีให้เลือกหลากหลายสี ทั้งยังออกแบบให้มีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือหัวมากกว่าเดิม ตัวถังซีดานมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 586 ลิตร ส่วนตัวถังแวกอนมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 650 ลิตร และเพื่อพับเบาะก็จะมีพื้นที่มากถึง 1,780 ลิตรเลยทีเดียว
โฟล์กสวาเกน พาสสาท มาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ TSI ขนาด 1,400 ซีซี กำลัง 2 ระดับ ได้แก่125 แรงม้า และ 150 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ TSI ขนาด 1,800 ซีซี กำลัง 180 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ TSI ขนาด 2,000 ซีซี กำลัง220 แรงม้า และ 280 แรงม้า ต่อด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ TDI ขนาด 1,600 ซีซี กำลัง 120 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2,000 ซีซี กำลัง 150แรงม้า 190 แรงม้า และ 240 แรงม้า ปิดท้ายด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริดใช้เครื่องยนต์ TSI ขนาด 1,400 ซีซี ให้กำลัง 211 แรงม้า
ช่วงล่างของพาสสาทใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาอันประกอบด้วยด้านหน้าแบบแมคฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ซึ่งเบากว่ารุ่นก่อน ๆ ถึง 9กิโลกรัม นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย ทั้งระบบจับสัญญาณวัตถุรอบตัวรถ ระบบช่วยขับและหยุดรถขณะจราจรติดขัด ระบบช่วยเปิดท้ายรถ กล้องมองรอบคัน และไฟหน้าแบบปรับความสูงอัตโนมัติ
โฟล์กสวาเกน พาสสาท จะเริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ที่ประเทศเยอรมัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,875 ยูโร (ประมาณ 1.13 ล้านบาท) สำหรับรุ่นซีดาน และราคา 25,950 ยูโร (ประมาณ 1.14 ล้านบาท) สำหรับรุ่นแวกอน


























