ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและน่าตื่นเต้นของ ตลาดรถยนต์ไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2025 นี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผลิตและการซื้อขายพาหนะอีกต่อไป แต่เป็นการลงทุนใน เทคโนโลยีรถยนต์ สุดล้ำ ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน และประสบการณ์การขับขี่ที่ฉลาดล้ำกว่าที่เคย การมาถึงของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์อัจฉริยะ ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่ได้กลายเป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนทิศทางของวงการ โดยมีนโยบายภาครัฐและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยสำคัญ
จากงาน Motor Show และ Motor Expo ที่เคยเป็นเวทีหลักในการอวดโฉมรถรุ่นใหม่ๆ ปัจจุบันบทบาทได้ขยายไปสู่การเป็นศูนย์รวมนวัตกรรม เทรนด์อนาคต และแพลตฟอร์มสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค ในปี 2025 นี้ ผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้มองหารถที่ตอบโจทย์แค่การเดินทาง แต่ต้องการรถที่ผสานรวมเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างไร้รอยต่อ ประหยัดค่าใช้จ่าย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม บทความนี้จะเจาะลึกถึงพลวัตที่สำคัญเหล่านี้ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนถึงสถานะและอนาคตของ ยานยนต์ไทย ที่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง
พลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต: รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ครองบัลลังก์
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดใน ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2025 คือการผงาดขึ้นของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้ก้าวข้ามจาก ‘ทางเลือก’ สู่การเป็น ‘กระแสหลัก’ อย่างแท้จริง แรงผลักดันสำคัญมาจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษี รถยนต์ไฟฟ้า และเงินอุดหนุน ทำให้ ราคา EV สามารถแข่งขันได้ และเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
จากสถิติยอดจองและยอดขายที่พุ่งทะยานตั้งแต่ปี 2022 เราได้เห็นการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะแบรนด์จีนอย่าง BYD, Tesla, และ MG ที่ไม่ได้เพียงแค่เข้ามาทำตลาด แต่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้าน เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, ระยะทางการขับขี่, และราคาที่คุ้มค่า BYD ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้นำในตลาด EV ของไทยด้วยรุ่นยอดนิยมอย่าง ATTO 3 และ DOLPHIN ในขณะที่ Tesla ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและความหรูหราสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า ส่วน MG ZS EV และ MG EP ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาด EV ระดับเริ่มต้นถึงกลาง
ขณะเดียวกัน แบรนด์ญี่ปุ่นและยุโรปก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ Toyota ได้เปิดตัว Toyota bZ4X อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยแผนงาน EV ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น Honda ก็นำเสนอซีรีส์ e:N สู่ตลาดโลก รวมถึงการพัฒนา EV สำหรับภูมิภาคโดยเฉพาะ แบรนด์หรูอย่าง Mercedes-EQ และ BMW i series ก็ขยายพอร์ตโฟลิโอ EV ในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่มองหา รถยนต์หรู ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากตัวรถแล้ว การพัฒนา สถานีชาร์จรถ EV ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ในปี 2025 นี้ เครือข่ายสถานีชาร์จครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเขตเมืองและเส้นทางสายหลัก ทำให้ความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” หรือความกลัวแบตเตอรี่หมดกลางทางลดลงอย่างมาก รวมถึง เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งในด้านความหนาแน่นของพลังงาน (ทำให้วิ่งได้ไกลขึ้น) อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และระบบจัดการความร้อนที่เพิ่มความปลอดภัย ส่งผลให้ รถ EV ไม่ใช่แค่ทางเลือกที่น่าสนใจ แต่เป็นทางเลือกที่ “ใช้งานได้จริง” ในชีวิตประจำวันของคนไทย
จากไฮบริดสู่สันดาป: ทางเลือกที่ยังคงอยู่และพัฒนาไม่หยุดยั้ง
แม้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะมาแรง แต่ตลาด รถยนต์ไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ก็ยังคงเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญและแข็งแกร่งใน ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2025 โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ หรือต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานระหว่างเชื้อเพลิงและไฟฟ้า
จากข้อมูลการวิเคราะห์ตลาด รถประหยัดน้ำมัน ในกลุ่ม SubCompact Crossover ที่เป็นที่นิยมสูงในไทย เราพบว่าเทคโนโลยีไฮบริดยังคงครองแชมป์ด้านอัตราสิ้นเปลืองได้อย่างเหนือชั้น โมเดลอย่าง Toyota Corolla Cross HEV และ Honda HR-V e:HEV ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ด้วยการผสานประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว มอบทั้งความประหยัดและสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล นอกจากนี้ Nissan Kicks e-POWER ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ใช้เครื่องยนต์เป็นเพียงตัวปั่นไฟ ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสประสบการณ์ EV ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ
ในส่วนของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แบบดั้งเดิม แม้จะได้รับความนิยมน้อยลงในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะและ SUV ขนาดใหญ่ โมเดลอย่าง Ford Ranger, Ford Everest, Isuzu D-MAX, และ Toyota Hilux Revo ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของภาคธุรกิจและการใช้งานที่ต้องการความสมบุกสมบัน แบรนด์เหล่านี้ได้ลงทุนในการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ลดมลพิษ และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ เข้าไป เพื่อให้ยังคงสามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบส่งกำลังและระบบควบคุมเครื่องยนต์ให้ฉลาดขึ้น เพื่อมอบ รถประหยัดน้ำมัน ที่ตอบโจทย์การใช้งานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแข่งขันในตลาด SubCompact Crossover ปี 2025 ยังคงดุเดือด ด้วยการที่ผู้ผลิตต่างนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์สันดาปที่ประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกซื้อ รถยนต์ประหยัดพลังงาน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และผู้บริโภคก็มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นตามงบประมาณและรูปแบบการใช้งาน
ยานยนต์อัจฉริยะ: เพื่อนร่วมทางที่คิดได้
ปี 2025 เป็นปีที่ เทคโนโลยีรถยนต์ ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเชื่อมต่อและอัจฉริยะอย่างเต็มตัว รถยนต์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรกลอีกต่อไป แต่เป็นเสมือน “สมาร์ทโฟนติดล้อ” ที่มาพร้อมระบบสมองกลอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Cruise Control ที่สามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้า, Lane Keeping Assist ที่ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ, และ Automated Parking ที่ช่วยจอดรถเอง ได้กลายเป็นฟังก์ชันมาตรฐานในรถยนต์หลายรุ่น ไม่ใช่แค่ในกลุ่ม รถยนต์หรู อีกต่อไป แต่แพร่หลายลงมาถึงรถยนต์กลุ่ม Mainstream มากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตในการยกระดับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
แม้ว่า รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Driving) ในระดับ 5 (ขับเคลื่อนเองได้สมบูรณ์ในทุกสภาวะ) จะยังคงอยู่ในช่วงของการวิจัยและพัฒนา แต่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 2+ หรือ 3 ก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์พรีเมียมบางรุ่นแล้ว ผู้ขับขี่สามารถปล่อยให้รถควบคุมการขับขี่บางส่วนได้ในสภาวะที่เหมาะสม เช่น การขับขี่บนทางหลวง ซึ่งช่วยลดความเหนื่อยล้าในการเดินทางไกลได้อย่างมาก
นอกจากนี้ ระบบ Infotainment ในรถยนต์ปี 2025 ยังผสานรวมเทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และ Internet of Things (IoT) เพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เหนือกว่า ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานด้วยเสียง, ควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านผ่านรถยนต์, รับข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์, และเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ระบบ Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลสำคัญบนกระจกหน้า และการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air (OTA) ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยม ทำให้รถยนต์ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา รถยนต์อัจฉริยะ เหล่านี้มาพร้อมกับความท้าทายด้าน Cyber Security ที่ผู้ผลิตและผู้ใช้ต้องตระหนัก การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและระบบของรถยนต์จากการโจมตีทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การขับขี่ในโลกอนาคตยังคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
ความหรูหราและขีดสุดแห่งสมรรถนะ: ตลาดรถยนต์พรีเมียมและไฮเปอร์คาร์
ตลาดรถยนต์หรู ในไทยปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงออกถึงสถานะทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สะท้อนถึงนวัตกรรมขั้นสูง, งานฝีมืออันประณีต, และการปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Customization) เพื่อตอบสนองความต้องการที่เหนือกว่าของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง แบรนด์ยุโรปชั้นนำอย่าง Mercedes-Benz, BMW, Audi, และ Porsche ยังคงเป็นผู้ครองตลาด โดยเฉพาะการนำเสนอโมเดล รถ EV ระดับไฮเอนด์ที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลังเข้ากับการขับเคลื่อนที่เงียบสงบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในกลุ่ม รถสปอร์ต และไฮเปอร์คาร์ การพัฒนาไม่ได้หยุดอยู่แค่ความเร็วสูงสุดอีกต่อไป แต่เน้นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร Rolls-Royce Boat Tail ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกบางคัน ยังคงเป็นตัวอย่างของยานยนต์ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับงานฝีมือ bespoke ในระดับสูงสุด ลูกค้าสามารถปรับแต่งทุกรายละเอียดได้ตามความต้องการ ตั้งแต่การเลือกวัสดุภายในจนถึงการออกแบบพื้นที่ด้านท้ายรถให้เป็นเหมือนเรือยอร์ชส่วนตัว สะท้อนถึงปรัชญา “Coachbuild” ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน Bugatti La Voiture Noire, Koenigsegg CCXR Trevita, Lamborghini Veneno, และ Aston Martin Valkyrie ก็ยังคงเป็นสุดยอดยนตรกรรมที่ตอกย้ำถึงขีดจำกัดของวิศวกรรมยานยนต์และการออกแบบที่ล้ำยุค ไฮเปอร์คาร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังรวมเอา เทคโนโลยีรถยนต์ ล่าสุดมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ความปลอดภัย และความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ระบบแอโรไดนามิกที่ซับซ้อน หรือแม้แต่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มอบแรงบิดมหาศาล
การปรับตัวของกลุ่มรถหรูและซูเปอร์คาร์สู่ รถยนต์พลังงานสะอาด ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญ โดยหลายแบรนด์เริ่มนำเสนอ Plug-in Hybrid หรือ รถ EV ประสิทธิภาพสูง เพื่อตอบรับกับกระแสความยั่งยืนและความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรถที่ทั้งหรูหรา ทรงพลัง และยังคงใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ประสบการณ์หลังการขายและการบริการลูกค้าเฉพาะบุคคล (Personalized Service) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์เหล่านี้ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด รถยนต์หรู ที่มีการแข่งขันสูง
พลวัตของตลาด: สถิติและพฤติกรรมผู้บริโภค 2025
ภาพรวมของ ตลาดรถยนต์ไทย ในปี 2025 เผยให้เห็นพลวัตที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะการเติบโตของ รถ EV ที่เข้ามาแทนที่ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับปัจจัยมากกว่าแค่ราคาและสมรรถนะ แต่ยังรวมถึงความยั่งยืน, เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ล้ำสมัย, และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
จากสถิติที่เคยระบุว่าสีรถยอดนิยมในต่างประเทศยังคงเป็นโทน Greyscale (สีเทา, ดำ, ขาว) แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในไทย เนื่องจากเป็นสีที่ดูเรียบหรู คลาสสิก และง่ายต่อการบำรุงรักษา อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มรถยนต์เฉพาะทางหรือ รถ EV ที่เน้นความทันสมัยมากขึ้น เราเริ่มเห็นสีสันที่สดใสและโดดเด่นเข้ามาเป็นทางเลือกมากขึ้น สะท้อนถึงความกล้าแสดงออกและรสนิยมที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่
ปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร (Bangkok Congestion) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่รถติดที่สุดในโลก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ ผู้บริโภคมักมองหารถยนต์ที่ขับขี่ในเมืองได้คล่องตัว, มีขนาดกะทัดรัด, และมาพร้อม ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ที่ช่วยลดความเครียดจากการขับขี่ในสภาพจราจรหนาแน่น เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน นอกจากนี้ การเติบโตของบริการ Ride-Sharing และขนส่งสาธารณะยังส่งผลต่อการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ส่วนตัวของผู้บริโภคบางกลุ่ม
ด้านการเงิน สินเชื่อรถยนต์ใหม่ และ ประกันภัยรถ EV ก็มีการพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของตลาด รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อและประกันภัยที่ให้เงื่อนไขพิเศษสำหรับ รถ EV เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของระบบนิเวศยานยนต์ทั้งหมดในการรองรับการเติบโตของ รถ EV
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ไทย ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านราคาพลังงานที่ผันผวนและภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องนำเสนอรถยนต์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา และตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งานควบคู่ไปกับการนำเสนอ นวัตกรรมยานยนต์ ที่ไม่หยุดนิ่ง
อนาคตที่เปิดกว้าง: ความท้าทายและโอกาสในทศวรรษหน้า
การเดินทางของ ตลาดรถยนต์ไทย ในปี 2025 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออก รถ EV และชิ้นส่วนที่สำคัญในภูมิภาค ด้วยนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนและฐานการผลิตที่แข็งแกร่งมายาวนาน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จและการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้าน เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ความยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการพัฒนา ยานยนต์ไทย การพิจารณาตลอดวงจรชีวิตของ รถ EV ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ, กระบวนการผลิต, การใช้งาน, ไปจนถึงการรีไซเคิล แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เมื่อหมดอายุการใช้งาน จะเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ รถยนต์พลังงานสะอาด เป็นไปอย่างยั่งยืนแท้จริง
การแข่งขันในตลาดจะทวีความเข้มข้นขึ้นจากแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่ผู้ผลิตรายเดิมต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดไว้ การตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่มองหาทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย เทคโนโลยี และความยั่งยืน จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในทศวรรษหน้า
ก้าวสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อน: คำเชิญสู่ประสบการณ์ใหม่
ปี 2025 คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ ยานยนต์ไทย เรากำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นของยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและ เทคโนโลยีรถยนต์ อัจฉริยะ ที่จะพลิกโฉมทุกมิติของการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขับขี่ที่มองหา รถ EV ล่าสุด เพื่อลดการปล่อยมลพิษและประหยัดค่าใช้จ่าย, รถประหยัดน้ำมัน ที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย, หรือ รถยนต์หรู ที่สะท้อนตัวตนและมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เตรียมพร้อมนำเสนอทางเลือกที่เหนือกว่าให้กับคุณแล้ว
ขอเชิญคุณสัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคต สำรวจ นวัตกรรมยานยนต์ ล่าสุด และค้นพบรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณและไลฟ์สไตล์ในแบบของคุณ อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ มุ่งหน้าสู่โชว์รูมหรือเยี่ยมชมงานแสดงยานยนต์ครั้งต่อไป เพื่อสัมผัสด้วยตัวคุณเองว่าอนาคตของการขับขี่นั้นน่าตื่นเต้นเพียงใด!
