• Sample Page
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result

N0410040_พวกเขาเอาเศษเหร ยนมาซ อรถ แต โดนไล ออกจากร าน_part2

admin79 by admin79
September 30, 2025
in Uncategorized
0
N0410040_พวกเขาเอาเศษเหร ยนมาซ อรถ แต โดนไล ออกจากร าน_part2

เราเคยรู้สึกเบื่อเอียนและเลี่ยนกับข่าวเกี่ยวกับสภาวะตลาดรถยนต์ในยุโรปตกต่ำพร้อมประดังประเดโหมทับด้วยข่าว
เศรษฐกิจตกต่ำสารพัดชนิด พร้อมทั้งแอบคิดในใจเบา ๆ ว่าสรุปสิ่งที่ได้ยินนี้มันจะมีทางแก้ไขหรืออุโมงค์ปลายทางให้พวก
เขาได้เจอทางออกกันอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะบางเหตุการณ์ก็เป็นการพายเรือวนในอ่าง รู้แล้วก็รู้อีก และท้ายที่สุดก็ต้อง
รอเวลาให้มันแก้ปัญหาด้วยตัวของมันเอง ตามหลักธรรมชาติอย่างนั้น เปรียบเสมือนนำชะนีพันธุ์หายากกลับคลืนเข้าคืนสู่
ป่ารังเมื่อมนุษย์สำนึกได้เสียทีว่าจะต้องอนุรักษ์

alt

และเวลาที่เนิ่นนานถึง 2 ปีมันก็นำพาให้พวกเราได้ยลโฉมรถรุ่นใหม่จากงานมหกรรมรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2013
Frankfurt Motorshow 2013 เมื่อได้ยินชื่องานบางคนก็รู้สึกเฉย ๆ ว่ามันก็แค่นำรถรุ่นใหม่และรถต้นแบบมาอวดโฉม
แต่สำหรับค่ายรถที่ทำธุรกิจในยุโรปต่างพากันพนมมือ, กุมมือ, ภาวนา (ตามแต่ละศาสนา) เพื่อให้สถานการณ์ในยุโรปดี
วันดีคืนทีเถิด หากมีเหตุเกิดไม่คาดฝันก็อาจทำให้บางค่ายเกิดจุดสะดุดจนถึงขั้นปิดกิจการเลยก็เป็นได้ มันร้ายแรงขนาดนี้
กันเลยทีเดียว

ผู้ผลิตหลายค่ายจึงรอระดมไฮไลต์สำคัญที่จะทำให้ตลาดรถยุโรปผงกหัวขึ้นแบบเด่นชัดมากกว่านี้ เพราะอาศัยแค่รอ
จังหวะฟลุคลุ้นให้ตลาดขาขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ไม่สาแก่ใจพอแน่นอน เราจึงไม่แปลกใจว่างาน Frankfurt ปีนี้จึงมีขบวน
พาเหรดรถทุกประเภทให้เห็นหน้าตากันในงานนี้แบบนับไม่ถ้วน

งานนี้ผู้บริโภคถือว่าโชคดีได้รถรุ่นรุ่นใหม่แบบตะลึงลาน (คนละลานบินจอดหรือลานเกรียนบนหนังศีรษะที่ขึ้นบน
กระหม่อมบาง ๆ เพื่อเตรียมรองรับกระแทกโดยฝ่ามือผู้มีพระคุณ เมื่อทำกริยาไม่งามหน้า) แต่สำหรับสื่อมวลชนเห็นที
จะต้องดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยจัดลำดับความคิดรสชาติคล้ายถั่วต้มผสม M-150 มารับประทานบ้าง เพราะมันเยอะจนไม่รู้ว่า
จะนำเสนออะไรกันดี และกว่าจะเสนอหมดเห็นทีคงจะหมดพลังงานเสียก่อน

จนบางทีก็แอบคิดว่าค่ายรถแอบนัดหมายกันตูมเดียวกันหรือเปล่า? เราก็นั่งกรอกตา ขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ายขวา ๆ บี เอ ซีเลคท์
สตาร์ท พร้อมหยิบประโยคเก๋จากพี่โน๊ต เดี่ยว 10 ว่า “ก็ไม่รู้สิเนาะ”

Audi

แค่ค่ายแรกก็จัดเต็มอย่างตื่นเต้นกันแล้วด้วยการอวดโฉม Audi Nanuk Quattro Concept ฟังเผิน ๆ เหมือนยาเสพติด
“นุ๊ค” ในภาพยนต์ Robocop ช่วงต้นยุค 90s แต่รถคันนี้ก็น่าจะเป็นยาเสพติดได้เหมือนกัน แต่วิธีเสพคงไม่มีใครบ้าจะนำ
คาร์บอนไฟเบอร์จากรถต้นแบบคันนี้มาฉีดเข้าเส้น (หากท่านมีบุตรหลานที่อ่านรีวิวมอเตอร์โชว์นี้ โปรดชี้แนะด้วย
วิจารณญาณ) วิธีการเสพง่าย ๆ แค่ปล่อยใจและกาย และเพิ่งสายตามองที่มันอย่าช้า ๆ และเพ่งจิตพิจารณาว่ามันดี
อย่างไร

audi2

Audi Nanuk Quattro Concept เป็นรถต้นแบบสปอร์ตที่มีลุคแปลก ๆ เสียหน่อย คือมันเป็นรถที่กลิ่นสัดส่วน Retro
เตะจมูกและยังยกสูงพื้นตัวถังให้สูงเพื่อหนีสรรพสิ่งใต้ท้องรถ โปรดอย่าสงสัยเลยว่าทำไมกลิ่นมันไม่คุ้นความเป็น Audi
เพราะรถคันนี้ Audi ร่วมมือออกแบบกับ Italdesign Giugiaro ชื่อก้องโลก จุดเด่นสำคัญคือมันเป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่ลุยได้
และว่ากันว่ารถต้นแบบคันนี้จะเป็นการต่อยอดมาจาก ItalDesign Giugiaro Parcour นั่นเอง

เพื่อมิให้เสียเวลา ไหน ๆ ก็เป็นเครือเดียวกันแล้ว Audi จึงขอหยิบยืมเครื่องดีเซลจาก Lamborghini V10 5.2 ลิตร เทอร์
โบคู่ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุดสะท้านโลกที่ 1,000 นิวตันเมตรที่รอบต่ำกว่าอีโคคาร์เพียง 1,500 รอบเท่านั้น ฟังแล้ว โอ้
โหว เห็นทีพวกเราจะต้องกราบเบญจางคประดิษฐ์กับเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Audi Valve System และระบบคอมเมนเรล
ที่มีแรงดัน 2,500 บาร์ ทำอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในไม่ต่ำกว่า 4 วินาที ความประหยัดที่ได้ยินแล้วตกใจ
มากแค่เพียง 30 MPG หรือ 12.75 กิโลเมตรต่อลิตร

audi3

ฟีเจอร์ที่หวนรำลึก Citroen Xantia เบา ๆ คือช่วงล่างถุงลมแบบปรับระดับใด ถามว่านึกถึง Xantia อย่างไร ก็คือมัน
สามารถปรับระดับความสูงของตัวรถเพื่อหนีถึง 3 มม. ซึ่งเป็นความสูงแค่น้ำกระฉอกจากท่าเรือพรานนกเท่านั้น ดังนั้นถ้า
คิดจะเอารถคันนี้หนีน้ำท่วมใหญ่เห็นทีจะไม่รอด

audi4

เมื่อเมียงมองรถที่อยู่ข้างเคียงกันก็รู้สึกว่า Audi น่าจะเป็นพวกเก็บกดไว้ในเบื้องจิต เพราะมีรถต้นแบบอีกคันหนึ่งจอดรอ
ท่าเพื่อให้สะดุดสายตานั่นก็คือ Audi Sport Quattro Concept รุ่นปี 2013 สีเหลืองมัสตาร์ดเคลือบแลคเกอร์ เอาล่ะ นี่
คือคำถาม? รถคันนี้มีความแตกต่างจากรุ่นปี 2010 อย่างไร

audi5

ได้เวลาหาคำตอบกันคือ Audi Sport Quattro Concept รุ่นปี 2010 เป็นการกำเนิดเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 25 ปีของ
ระบบ Quattro อันทรงพลัง เพียงแต่รุ่นปี 2013 ก็จะถูกขัดเกลาเพื่อให้พร้อมออกโรงผลิตจริงได้ในอีกไม่ช้า และคาดว่าจะ
ให้ทันอายุครึ่งแซยิดของ Quattro ค่อนข้างแน่นอน

2013 Audi Sport Quattro Concept จะเปลี่ยนรายละเอียดงานออกแบบใหม่หมด จุดหลัก ๆ ก็เปลี่ยนช่องดักลมไฟตัด
หมอกหน้าใหญ่มาก, รายละเอียดโคมไฟหน้าสุดล้ำ, ส่วนด้านท้ายถูกออกแบบโคมไฟท้ายใหม่ทำให้สลัดภาพความเก่า
ออก และทำการออกแบบช่องดักอากาศด้านข้างใหม่ ให้กลมกลืนและลงตัวมากกว่าเดิม รวมถึงการเปลี่ยนล้ออัลลอย
ขนาดโต 21 นิ้วลายใหม่

Audi ยังคงใส่ใจในรายละเอียดการใช้วัสดุเช่นเคยและเหมือนเคย ทั้งการใช้วัสดุอะลุมิเนียมในซุ้มล้อหน้าและประตูคู่หน้า
รวมถึงการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิท (CFRP) อันเป็นวัสดุจากเทคโนโลยีใหม่ที่เริ่มนิยมใช้ในวงการรถยนต์ในแผ่น
หลังคาฝากระโปรงหน้าและท้ายของรถยนต์ต้นแบบคันนี้ ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1,850 กก.

ส่วนรูปลักษณ์ภายใน มีการออกแบบใหม่ด้วยเช่นกัน โดยเป็นการออกแบบที่ลดโทนให้ใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากขึ้น
เน้นความเรียบง่าย และความชัดเจนของข้อมูล ด้วยการใช้มาตรวัดแบบดิจิตอล คอนโซลกลางเอียงเข้าหาผู้ขับขี่
และออกแบบให้มีปุ่มควบคุมน้อยชิ้น เน้นการควบคุมการทำงานผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ MMI

audi6

ขุมพลังที่ใช้ในรถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ ได้แก่ขุมพลังไฮบริด ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทอร์โบคู่ TFSI
ขนาด 4.0 ลิตร 560 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 700 นิวตัน-เมตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า ส่งผลให้
มีกำลังรวมสูงมากถึง 700 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดสะใจ 800 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
Quattro ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จนทำให้สามารถทำตัวเลข 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 3.7 วินาที
ในขณะที่จิบน้ำมันเฉลี่ยได้ต่ำเพียง 40 กม./ลิตร ความประหยัดที่เรียกว่าอีโคคาร์ยังต้องกราบเข้ามาสวัสดี

เอียงคอมุมซ้าย 45 องศาก็เจอะของดีเข้าแล้ว นั่นก็คือ Audi A3/S3 Cabriolet รถตากอากาศสำหรับเศรษฐีวัยเยาว์ที่มี
เบี้ยหอยเยอะเกินกว่าคนปกติเขาจะมีกันและต้องการระบายเงินลงมาเล่นกับรถประเภทแปลก ๆ บ้าง และเราต้องยอมรับ
ในความกล้าของ Audi ที่กล้านำ A3 รุ่นตากอากาศมาเปิดตัวอีกครั้งในรถรุ่นใหม่

audi7

Audi A3/S3 Cabriolet ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานตัวถังซีดาน ทำให้มิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในเกือบทุกมิติ ตัวรถมีความยาวอยู่ที่
4.42 ม.(เพิ่มจากเดิม 18 ซม.) กว้าง 1.79 ม. (เพิ่มจากเดิม 2 ซม.) ที่สำคัญคือการขยายระยะฐานล้อหน้า-หลังเป็น 2.6 ม.
ทำให้มีเนื้อที่วางขาสำหรับผู้โดยสาร ตอนหลังที่กว้างขึ้น และเพิ่มพื้นที่สัมภาระมากขึ้นอีก 60 ลิตร เช่นกัน แต่ใน
ขณะเดียวกัน กลับมีน้ำหนักน้อยลงถึง 50 กก.เมื่อเทียบกับโฉมที่แล้ว และมีความสูงน้อยลง 15 มม. เรียกว่ามาทั้งทีของให้
ได้ใหญ่ยาวก็พอ

ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ใช้ชิ้นส่วนครึ่งคันหน้าร่วมกับตัวถังแฮตช์แบกและซีดาน เพียงแต่สัดส่วนของตัวรถจะดูเป็น
เหมือนกันผสานความยาวในแบบซีดานเข้ากับประตู 2 บานแบบแฮตช์แบก และมีการเสริมเส้นโครเมี่ยมจากเสา A-Pillar
ลากยาวจรดปลายแนวกระจกด้านข้างตัวรถ เสริมความรู้สึกหรูหราในสไตล์รถเปิดประทุน ในขณะที่ด้านท้ายเป็นการ
ออกแบบให้คล้ายคลึงกับตัวถังอื่นๆด้วยเช่นกัน

2014 Audi A3 Cabriolet ยังมาพร้อมกับหลังคาผ้าใบที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ จนสามารถพับ-กางออกมาในระยะเวลาต่ำ
กว่า 18 วินาที และสามารถทำงานได้ภายใต้ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. และ Audi ยังคิดค้นออพชั่นเสริม ‘Acoustic
Top’ หลังคาผ้าใบพิเศษ ที่เสริมความหนาของตัวผ้า จนทำให้สามารถเก็บเสียงภายนอกไม่ให้รบกวนภายในห้องโดยสาร
ได้เป็นอย่างดี

ส่วนขุมพลัง เป็นการใช้ร่วมกันกับ A3 ตัวถังอื่นๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทัพเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมเทอร์โบ TFSI ทั้ง
ขนาด 1.4 ลิตร 140 แรงม้า และ1.8 ลิตร 180 แรงม้า รวมไปถึงเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ TDI ขนาด 1.6 ลิตร 110
แรงม้า และ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ส่วนขาซิ่งต้องหันไปคบกับS3 Cabriolet ซึ่งเป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อม
เทอร์โบ TFSI ขนาด 2.0 ลิตร 300 แรงม้า ช่วยสร้างอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลาเพียง 5.4 วินาที

audi8

คันสุดท้าย ท้ายสุดคือ Audi A8 Minorchange ปรับโฉมเพื่อเอามาต้านกับ Mercedes-Benz S-Class โฉมใหม่ที่มี
กระแสมาแรงมาก (ดังในหมู่เศรษฐีระดับพันล้าน แต่เงียบเป็นเป่าสากในกลุ่มอื่น) ไหน ๆ Audi ก็รู้ตัวว่า A8 มีบอดี้ที่เก่า
เสียแล้วจึงหันมาประโคมสุดยอดเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อมาหักล้างกับเรือนร่างที่ไม่สะโอดองค์เสียแล้ว

รูปลักษณ์ด้านหน้า ที่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งหมด ตั้งแต่กันชนหน้าพร้อมกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมแบบใหม่ ใช้เส้นสายที่
สะอาดตา ลดความยุ่งเหยิง เน้นความหรูหราด้วยแถบโครเมี่ยม ฝากระโปรงหน้าถูกออกแบบใหม่ให้เพิ่มมิติและเฉียบคม
กว่าเดิม ส่วนโคมไฟหน้าเป็นครั้งแรกที่ Audi นำเทคโนโลยี Matrix LED มาให้เลือกเป็นออพชั่นเสริม โดยประกอบไปด้วย
หลอดไฟ LED 25 ดวง ที่แต่ละดวงจะมีการคำนวณการทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อการส่องสว่างที่เหมาะสมในแต่ละสภาพ
การขับขี่

ส่วนระบบไฟเลี้ยว Audi นำเอาระบบหลอดไฟที่ทำงานจากด้านในไล่ไปยังด้านนอกของตัวรถ ทั้งในไฟเลี้ยวด้านหน้าและ
ด้านท้าย
ซึ่ง Audi กล่าวว่าจะช่วยทำให้เกิดความชัดเจนของสัญญาณไฟเลี้ยวแก่ผู้ร่วมถนนมากขึ้น ส่วนรูปลักษณ์ด้านท้ายมีความ
เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ทั้งกันชนหลังที่ออกแบบใหม่ เสริมความเรียบง่ายมากกว่าเดิม โดยถูกออกแบบให้เข้ากับ
ปลายท่อไอเสียทรงเหลี่ยมสันนอกจากนี้ 2014 Audi A8 ยังมีสีตัวถังใหม่ให้เพิ่มเติมถึง 5 สีด้วยกัน และมีออพชั่นล้ออัล
ลอยให้เลือกถึงขนาด 21 นิ้ว

ส่วนขุมพลังที่ Audi เตรียมมาใส่ให้กับ A8/S8 ก็ล้วนเป็นเครื่องยนต์ทรงพลังทั้งสิ้น เริ่มต้นด้วยบล็อกเล็กที่สุด เครื่องยนต์
เบนซินแบบ V6 พร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 3.0 310 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล V6 พร้อมเทอร์โบ TDI ขนาด 3.0 ลิตร
258 แรงม้าขยับมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ TFSI ขนาด 4.0 ลิตร 435 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล V8 พร้อม
เทอร์โบ TDIขนาด 4.2 ลิตร 385 แรงม้า โดยทำการตัดเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.2 ลิตรทิ้งไป ส่วนในรุ่น A8 L มาพร้อมกับ
เครื่องยนต์เบนซินบล็อกโตแบบ W12 สูบ ขนาด 6.3 ลิตร สร้างกำลังได้ 500 แรงม้า ในขณะที่รุ่น S8 จะได้ขุมพลังที่แรง
ที่สุดไป ได้แก่เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 4.0 ลิตร 520 แรงม้า ที่สามารถทำตัวเลข 0-100 กม./
ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที

นอกจากนี้ A8 ยังมาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดให้เลือกใช้กันด้วย โดยเป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซินพร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด
2.0 ลิตรผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า จนได้กำลังรวม 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร โดยระบบ Hybrid
ของ A8 จะแบ่งการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินไว้ที่ล้อหน้า และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง และ
สามารถแล่นด้วยพลังไฟฟ้าล้วนได้ไกล 3 กม. ทำความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยได้ 15.8 กม./ลิตร

audi9

ส่วนภายในห้องโดยสาร เป็นการปรับปรุงการตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ โดยไร้การเปลี่ยนแปลงรูปทรงของคอนโซลหน้าแต่
อย่างใดและยังคงอัดแน่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันเหมือนเดิม ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนังแท้พร้อมฟังก์ชั่นนวด เบาะ
นั่งด้านหลังปรับระดับได้หรือระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน และการมีออพชั่นระบบความบันเทิงในรถจาก Bang &
Olufsen นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมากมาย ทั้งระบบช่วยควบคุมเลน ระบบ Head-up Display
พร้อมระบบช่วยมองในสภาพกลางคืน เป็นต้น

ก็เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงเพื่อการปรับตัวตามวิถีของยานยนต์โลก

BMW

bmw1

เราเริ่มได้ยินเสียงจากผู้ที่ติดตามข่าวสารรถยนต์หลายท่านว่าเริ่มมีความรู้สึกว่าหนักสะโพกเหลือเกิน ถามไปถามมาก็ได้
ใจความว่า พวกเขาต้องใช้ความอดทนใหนการรอคอยรถยนต์ตระกูล BMW i-Series มานานแสนนานเป็นอย่างมากเลย
เข้าทำนองว่านั่งนานจนรากงอกเสียอย่างนั้นไป เอาเป็นว่าในงานนี้ BMW ก็ได้เปิดตัว i8 เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงไม่
ติงนัง เพื่อเป็นการเสริมทัพให้กับรถนาครไฟฟ้า i3 ซึ่ง i3 ก็พยายามสร้างจุดขายเหนือกว่าแบรนด์รถพื้น ๆ ทั่วไป แต่ขายใน
ราคาสุดคุ้มจนต้องชำเลืองมองอีกทีว่ามันคือ BMW แท้หรือตัวปลอมกันแน่ เพราะขาย i3 แทบจะเสนอฟีเจอร์และของ
แถมเหมือน TV Direct โอ้ ซาร่า จอร์จจะมาช่วยแก้ปัญหากันเลยทีเดียว

bmw2
bmw3

BMW i8 เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงมีเส้นสายตัวรถไม่แตกต่างจาก i8 Concept มากนัก เพียงแค่ปรับกระชับสัดส่วน
เพื่อให้มนุษย์เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถใช้งานได้จริง ดีไซน์ต่าง ๆ ก็ยังถือว่าเป็นสุดยอดรถสายพันธุ์สปอร์ต Supercar แต่พ่น
ไอเสียแบบปุ๋ย ๆ เท่านั้น ดื่มน้ำมันแบบจิ๊บ ๆ

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ขุมพลัง Hybrid ที่จับคู่เครื่องยนต์สันดาปภายใน 1.5 ลิตร!!! ถึงบรรทัดนี้กรุณาอย่าเพิ่งช๊อกซีเนม่า ตี
อกชมลมพร้อมทั้งดิ้นลงไปกับพื้นว่าซื้อรถซะแพงมาก แต่ทำไมได้ความจุแค่เท่ากับเครื่อง Vios… เราจะต้องร้องเพลง
กรุณาฟังให้จบกันเสียก่อน คือเครื่องตัวนี้เป็นบล๊อกใหม่ 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังไม่แบเบาะ 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด
320 นิวตันเมตร ฟังแล้วใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เมื่อรวม
พลังกันแล้วก็จะแรงถึง 362 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 570 นิวตันเมตร ตบหน้าผู้ที่ปรามาสเครื่อง Hybrid แบบ 360 องศากัน
เลยทีเดียว ส่วนความประหยัดน่ะหรือ BMW i8 ก็สมควรเตรียมหัวเราะหึหึใส่รถอีโคคาร์ทั้งหลายด้วยอัตราสิ้นเปลืองแค่
เพียง 2.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น

bmw4

ราคาจำหน่าย BMW i8 ก็แค่ 135,700 ดอลลาร์แพงที่สุดในสายการผลิตของ BMW ยุคนี้เลยก็ว่าได้ หากใครมีเงินเหลือ
ก็ลองซื้อมาให้แล้วนำให้พวกเรามารีวิวกันได้ครับ

bmw5

BMW X5 eDrive Concept ก็ออกมายั่วน้ำลายเศรษฐีที่รักความอเนกประสงค์แต่ทว่าก็ต้องการความประหยัดด้วย
เช่นกัน มันเป็นรถ Plug-in Hybrid ที่จับคู่เครื่องยนต์สันดาปภายใน 4 สูบเทอร์โบชาร์จจับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งในโหมดรถไฟฟ้าเพียวได้แค่ 30 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมงภายใน 7 วินาที ส่วนความประหยัดนั้นก็หัวเราะหึหึกันได้เลยเพราะประหยัดถึง 3.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่
กว่าจะผลิตขายจริงคงต้องรอกันสักหน่อย

ตอนแรกก็คิดว่าจะปิดบูธ BMW สวย ๆ ด้วย BMW i8 แต่มีความรู้สึกว่าต้องมีของฝากนักแวนซ์กันเสียหน่อย เพื่อให้
ครอบคลุมกับผู้อ่านผู้มีพระคุณทุกกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ นั่นคือ BMW Bring C Evolution ที่หน้าตาเหมือน
Honda MSX125 ผสมพันธุ์กับรถแนวออโต้ทัวริ่งออะไรสักอย่าง

bmw6

BMW Bring C Evolution จะเป็นสกูตเตอร์ไฟฟ้า (ถ้าเรียกตามศัพท์การตลาดของบ้านเราคือ รถจักรยานยนต์เกียร์
อัตโนมัติ) ที่ให้คุณสมบัติการขับขี่เป็นยอด และมีความคล่องตัวในแบบสกูตเตอร์ มันมีกำลัง 15 แรงม้า แต่ถ้าอยากจะแรง
ขึ้นอีกมอเตอร์จะสามารถปั่นได้ถึง 45 แรงม้า นำพาเรือนร่างไปได้สูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วในการแวนซ์
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.2 วินาที สามารถเทียบชั้นพละกำลังกับรถจักรยานยนต์ที่มีความจุ 600 ซีซีได้ไม่ยาก
เลย

แต่รถไฟฟ้าก็คือรถไฟฟ้าวันยังค่ำ มันมีระยะทางวิ่งสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จประจุจากไฟบ้าน 4 ชั่วโมง มีระบบ
เก็บพลังงานจลน์จากการเบรค ก็สรุปว่ารถคันนี้น่าจะรอการพัฒนาต่อยอดกันต่อไป บรรดาแวนซ์ไฮโซอาจจะต้องรอสัก
ระยะหนึ่ง

Chevrolet

chevy1
chevy2

Bumblebee ออกโรงแล้ว! GM ยุโรปยกพลขึ้นบกยึดใจคนยุโรปด้วยการแนะนำ Chevrolet Camaro ตัวถังมาตรฐาน
และใหม่ล่าสุดที่ลงทุน Debut ในยุโรปด้วยตัวถังเปิดประทุนเพื่อให้รู้กันว่า Camaro ไม่ใช่ความฝันในโรงหนังอีกต่อไป แต่
มันนำพาให้พวกเขาเสียเงินซื้อความเท่และเก๋าของมันได้

chevy3

จุดสายตาจะต้องอยู่ที่ Chevrolet Camaro Convertible ก่อนใครเพื่อน มันก็มีความเท่และเก๋าตามแบบฉบับ Camaro
ตัวหลังคาพับเปิดปิดได้จะเป็นแบบผ้าใบเพื่อช่วยลดน้ำหนักตัวถัง ส่วนภายในห้องโดยสารก็ติดตั้งระบบ ส่วนพวงมาลัยก็
สหกรณ์กันหมด ใครชอบเรียกร้องสิทธิ์ความเท่าเทียมกัน Chevrolet เขาจัดให้แล้วครับ

Ford

ford2

ปีนี้ Ford อาจไม่จัดหนักจัดเต็มกับงานนี้มากนัก แต่อย่างน้อยก็เปิดตัวรถต้นแบบมินิแวนรุ่นใหม่ล่าสุด Ford S-Max
Concept ไม่ต้องมานั่งมโนภาพเลยว่ามันจะเป็นตัวตายตัวแทนของรถรุ่นใดกันแน่ มันก็คือร่างทรง(แบบไม่ต้องอัญเชิญ)
ของ S-Max ตัวต่อไปนั่นเอง

Previous Post

N0410049_ทำไมเด กคนน งเอานมแม วเองไปให ตำรวจด พอร เหต ผลถ งก บอ_part2

Next Post

N0410034_กเม อพร อม เอาเด กท งขยะก บเหต ผลแบบน_part2

Next Post
N0410034_กเม อพร อม เอาเด กท งขยะก บเหต ผลแบบน_part2

N0410034_กเม อพร อม เอาเด กท งขยะก บเหต ผลแบบน_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1412031 สงครามแม เล ยงก บล กเล ยง ใครจะอย ใครจะไป!!! part2
  • N1412037 งคนท เคยลำบากมาด วยก เพ อไปคบคนรวย part2
  • N1412032 ทำไมแม องขโมยเง นของล กต วเองด วย part2
  • N1412036 คงอยากได แฟนเพ อนจนต วส งได กล าทำเร องแบบน part2
  • N1412035 าม แฟนน ยแย แบบน แนะนำอย คนเด ยวเถอะ!! part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.