• Sample Page
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result

N0412044 กชายค อคนโปรดของแม วนพ สาวแค คนท องจ าย part2

admin79 by admin79
November 29, 2025
in Uncategorized
0
N0412044 กชายค อคนโปรดของแม วนพ สาวแค คนท องจ าย part2

ในภูมิทัศน์ยานยนต์โลกปี 2025 ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำแห่งนวัตกรรม ความหรูหรา และสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้ แบรนด์ดาวสามแฉกนี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์ แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกที่หลอมรวมศิลปะ วิศวกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตั้งแต่โปรเจกต์พิเศษที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ไปจนถึงการพัฒนากลยุทธ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนในตลาดประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงตอกย้ำจุดยืนในการส่งมอบ ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ และยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

G-Class x Off-White: การผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ที่หลอมรวมศิลปะและยานยนต์

ย้อนกลับไปในปี 2020 เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สร้างความฮือฮาในวงการยานยนต์และแฟชั่น ด้วยการเปิดตัวโปรเจกต์ Geländewagen อันเป็นผลมาจากการร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Gordon Wagener หัวหน้าฝ่าย Design ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ Virgil Abloh อดีต CEO ของ Off-White ผู้ล่วงลับ ซึ่งในขณะนั้นยังดำรงตำแหน่ง Artistic Director ของ Louis Vuitton การผนึกกำลังครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการออกแบบรถยนต์ แต่เป็นการสร้างสรรค์ งานศิลปะในรูปแบบรถยนต์ ที่ท้าทายกรอบเดิมๆ ของดีไซน์รถ SUV

Project Geländewagen คือการนำรถยนต์ Mercedes-Benz G-Class ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสมบุกสมบันและเป็นไอคอนของรถลุย 4×4 มาตีความใหม่ ให้กลายเป็นรถแข่งสไตล์ Race Car ที่สะท้อนวิสัยทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Virgil Abloh ทั้งสองนักออกแบบต้องการผลักดันขีดสุดของ G-Class ด้วยการปรับแต่งให้ตัวรถกว้างขึ้น ลดระดับความสูงลงอย่างเห็นได้ชัด และเลือกใช้ล้อแม็กกับยางที่มีขนาดใหญ่เกินจริง สร้างสัดส่วนที่แปลกตาแต่โดดเด่นสะดุดตาอย่างไม่น่าเชื่อ

ภายในห้องโดยสารถูกถอดแบบมาจากรถแข่งอย่างแท้จริง โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Project 1 รถ Formula 1 สำหรับพวงมาลัย และเบาะที่นั่งจากรถ DTM Car ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกองค์ประกอบด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัยหรือมือจับประตู ล้วนถูกเน้นด้วยสีแดงสด สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งความเร็วและความดุดัน ผลงานชิ้นนี้ถูกประมูลโดย Sotheby’s เพื่อสนับสนุนชุมชนสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ ตอกย้ำถึงพันธกิจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการเป็นมากกว่าแบรนด์รถยนต์ แต่เป็นผู้สนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม

โปรเจกต์ G-Class x Off-White จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการทดลองสิ่งใหม่ๆ ผสมผสานโลกแห่งยานยนต์อันแข็งแกร่งเข้ากับแฟชั่นชั้นสูงได้อย่างไร้รอยต่อ สร้างแรงบันดาลใจและกำหนดทิศทางใหม่ให้กับวงการออกแบบยานยนต์ในอนาคต ทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ดีไซน์รถหรู นั้นไร้ขีดจำกัดเพียงใด

Mercedes-Benz GLE Coupe: ความสมดุลแห่งสมรรถนะและความสง่างามในยุค 2025

ในตลาด SUV พรีเมียม ที่มีการแข่งขันสูงลิบลิ่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์ SUV Coupe ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLE Coupe ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหาสมรรถนะอันทรงพลัง ดีไซน์สปอร์ต และความหรูหราที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมาเพื่อเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มตัวในปี 2020 แต่ในปัจจุบันปี 2025 นี้ GLE Coupe ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นยนตรกรรมที่ยังคงความสดใหม่และน่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ด้วยการผสมผสานเส้นสายอันโฉบเฉี่ยวของรถคูเป้เข้ากับความบึกบึนของรถ SUV ได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ภายนอกของ GLE Coupe โดดเด่นด้วยแนวหลังคาที่ลาดเอียงลงจรดท้ายรถ ให้ภาพลักษณ์ที่สปอร์ตและปราดเปรียวกว่า GLE รุ่นปกติ ส่วนหน้ายังคงเอกลักษณ์ความหรูหราตามแบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมไฟท้ายที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีมิติและความหรูหรามากยิ่งขึ้น ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมมีความเป็นรถคูเป้มากขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า และในยุคปัจจุบันปี 2025 นี้เอง ดีไซน์ดังกล่าวยังคงสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่สง่างามเหนือกาลเวลา

ภายในห้องโดยสารของ GLE Coupe ได้รับการออกแบบใหม่หมดจด โดยยึดแนวคิดเดียวกับ Mercedes-Benz GLE รุ่นมาตรฐาน แต่ต่างจากคู่แข่งที่อาจจะรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ ห้องโดยสารของ GLE Coupe ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ใน “ห้องบัญชาการ” แห่งอนาคต ด้วยการจัดวางที่โปร่งโล่ง แต่ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา หน้าจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้วสองจอเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียว (Widescreen Cockpit) สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัย ควบคู่ไปกับคอนโซลกลางที่โดดเด่นและเส้นไฟ Ambient Light กว่า 64 เฉดสี ที่สามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามต้องการ เทคโนโลยี MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชั่นล่าสุดยังคงเป็นหัวใจสำคัญ ด้วย AI ที่ฉลาดพอจะเข้าใจสำนวนการพูดคุยปกติ ทำให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ

วัสดุภายในที่หรูหรา ทั้งหนังสังเคราะห์ ARTICO และพวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมตัวเลือกหนังแท้ Nappa สำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษยิ่งขึ้น สะท้อนถึงความประณีตในการเลือกสรรวัสดุ

ในด้าน สมรรถนะ GLE Coupe สำหรับตลาดยุโรปในปี 2020 ได้นำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 2 รุ่น ได้แก่ GLE Coupe 350 d 4MATIC (272 แรงม้า, 600 นิวตันเมตร) และ GLE Coupe 400 d 4MATIC (330 แรงม้า, 700 นิวตันเมตร) ซึ่งในปัจจุบันปี 2025 เครื่องยนต์เหล่านี้ยังคงเป็นที่ยอมรับในเรื่องของพละกำลังและประสิทธิภาพ โดยทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ที่สามารถกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและหลังได้ 0-100% ตามสถานการณ์ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและการทรงตัว ระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC และ E-ACTIVE BODY CONTROL (อุปกรณ์เสริม) ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของตัวถัง ลดอาการโคลงและเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ GLE Coupe มาพร้อม Active Braking Assist เป็นมาตรฐาน และมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงอื่นๆ เช่น Active Distance Assist DISTRONIC, Active Stop-and-Go Assist และ Active Steering Assist เป็นตัวเลือกเสริม ที่ยังคงทันสมัยและตอบโจทย์การขับขี่ในยุค 2025 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Mercedes-Benz Thailand: ผู้นำยานยนต์หรูสู่ทศวรรษใหม่ (2025)

ปี 2025 นับเป็นอีกหนึ่งทศวรรษแห่งความสำเร็จอย่างต่อเนื่องสำหรับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถหรูในประเทศไทยอย่างยาวนาน โดยมีฐานที่มั่นคงจากผลงานอันยอดเยี่ยมในอดีต อาทิ ยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15,785 คันในปี 2018 แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์อย่างไม่เสื่อมคลาย

ในปัจจุบัน (ปี 2025) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและครอบคลุม เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของยนตรกรรม โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การนำเสนอ นวัตกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ภายใต้แบรนด์หลักอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์, เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes-AMG), เมอร์เซเดส-มายบัค (Mercedes-Maybach) และแบรนด์เทคโนโลยี EQ ซึ่งเป็นตัวแทนของ รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz

ทิศทางกลยุทธ์หลักในปี 2025:

ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์: เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน รุ่น รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (EQ Power) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EQ) เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค การเปิดตัวรุ่นใหม่มากกว่า 20 รุ่นที่เคยประกาศไว้ในอดีต ได้กลายเป็นพันธกิจที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พอร์ตโฟลิโอของแบรนด์มีความสดใหม่และล้ำหน้าอยู่เสมอ
ความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EQ Brand): การสร้างระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ ตั้งแต่การนำเสนอรถยนต์ EQ รุ่นใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาไปอีกขั้น การขยายเครือข่ายสถานีชาร์จทั่วประเทศ (ซึ่งจาก 200 แห่งในปี 2019 ได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 และมีแผนขยายเพิ่มอีก 80 แห่งในจุดยุทธศาสตร์ใกล้ผู้บริโภค) ไปจนถึงการสนับสนุนสายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Best Customer Experience):
เครือข่ายผู้จำหน่าย: เมอร์เซเดส-เบนซ์มุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีผู้จำหน่ายรวม 36 แห่งภายในปี 2019 และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกสบาย
บริการหลังการขาย: การเปิดตัว “คลังอะไหล่แห่งใหม่” บนถนนบางนา-ตราด กม. 19 ในปี 2019 ได้กลายเป็นศูนย์กลางการจัดการอะไหล่ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน (ปี 2025) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายอะไหล่และลดระยะเวลารอคอยได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการขยายศูนย์บริการสีและตัวถังที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น
พัฒนาบุคลากร: โครงการเยอรมัน-ไทย เพื่อความเป็นเลิศในการศึกษาทวิภาคี (GTDEE) ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาศักยภาพช่างเทคนิคจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพรองรับการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ

ดิจิทัลและไลฟ์สไตล์: แพลตฟอร์ม Mercedes me connect ยังคงเป็นหัวใจของการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า รถยนต์ และศูนย์บริการ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ภายใต้แคมเปญ “She’s Mercedes” ก็ยังคงสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้จำหน่ายรถยนต์ แต่เป็นผู้กำหนดเทรนด์และสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์หรูของประเทศอย่างแท้จริง

เปิดพอร์ตโฟลิโอเด่น: ยนตรกรรมแห่งอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ในมุมมอง 2025)

ในปี 2025 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงนำเสนอขีดสุดของยนตรกรรมในหลากหลายเซกเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นที่เคยเปิดตัวในช่วงปลายปี 2019 ซึ่งได้กลายเป็นตัวหลักในพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ ที่ยังคงความล้ำสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในกลุ่ม SUV สุดหรู, SUV สมรรถนะสูง และ รถหรูไฮบริด อัจฉริยะ

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium: S-Class แห่งโลก SUV 7 ที่นั่ง

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือนิยามของ SUV 7 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “S-Class แห่งโลก SUV” ด้วยความหรูหราสง่างามและเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด มอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นเสมือนอยู่ในห้องรับรองเคลื่อนที่

ดีไซน์ภายนอก: โดดเด่นด้วยไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam ที่ประกอบด้วยหลอด LED 112 หลอดต่อโคม สามารถปรับความเข้มและระยะการส่องสว่างได้อัตโนมัติ ส่องได้ไกลกว่า 150 เมตร ล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบาย
ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร: ห้องโดยสารกว้างขวางรองรับผู้โดยสาร 7 ท่าน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 มม. เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ และระบบ EASY-ENTRY สำหรับเข้าสู่ที่นั่งแถวที่ 3 ได้อย่างสะดวกสบาย เบาะแถว 3 เป็นแบบ full-size รองรับผู้โดยสารสูงถึง 194 ซม. เมื่อพับเบาะราบทั้งหมดจะเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 2,400 ลิตร พร้อมไฟสร้างบรรยากาศ 64 สี และระบบปรับอากาศ THERMOTRONIC
ระบบความสะดวกและการสื่อสาร: มาพร้อม เทคโนโลยี MBUX แสดงผลผ่านจอ Digital widescreen cockpit 2 จอต่อเนื่องกัน ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey Mercedes” ระบบแสดงผลข้อมูล Head-up display ระบบแผนที่นำทาง Hard Disc Navigation ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® และ Apple CarPlay™ & Android Auto™
Mercedes me connect: ฟีเจอร์เด่น อาทิ ระบบโทรฉุกเฉิน Mercedes-Benz emergency call system, ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Tele diagnostics และระบบตั้งค่ารถยนต์พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์จากโทรศัพท์มือถือ

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ด้วย ราคา Mercedes-Benz 8,859,000 บาท (ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้บริหารและครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการความหรูหราขั้นสุดและความอเนกประสงค์

Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic (รุ่นประกอบในประเทศ): SUV พรีเมียมที่ผสานความดุดันและเทคโนโลยี

Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ คือการผสมผสานที่ลงตัวของคุณสมบัติอันชาญฉลาดและความงามทางการออกแบบ เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่เร้าอารมณ์และสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่สวยงามเหนือกาลเวลา

ดีไซน์ภายนอก: โดดเด่นด้วยปรัชญา Sensual purity กระจังหน้า 6 เหลี่ยมยกสูง แผ่นกันกระแทกโครเมียม และชุดไฟหน้าอัจฉริยะ MULTIBEAM LED ล้ออัลลอย AMG Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว และ AMG Bodystyling รอบคัน เสริมภาพลักษณ์ดุดันและทรงพลัง
ดีไซน์ภายใน: ห้องโดยสารผสานความหรูหราสง่างามเข้ากับความแข็งแกร่งแบบ SUV ฐานล้อยาวถึง 2,995 มม. เพิ่มพื้นที่ภายใน เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มหนัง Nappa ปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ เบาะแถว 2 ปรับพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่วางขาได้มากถึง 1,049 มม. ความจุห้องเก็บสัมภาระสูงถึง 2,055 ลิตรเมื่อพับเบาะ
ระบบความสะดวกสบายและการสื่อสาร: จอ Digital widescreen cockpit ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอต่อเนื่องกัน ระบบ Head-up display ระบบเสียง Burmester® Apple CarPlay™ & Android Auto™ ช่อง USB Type C และไฟเรืองแสง 64 สี พร้อมบริการ Mercedes me connect
ระบบความปลอดภัย: พัฒนาไปอีกขั้นด้วย Active Distance Assist DISTRONIC, Blind Spot Assist, Active Lane Keeping Assist, Active Brake Assist และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360˚camera ซึ่งเป็น ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง

ด้วย ราคา Mercedes-Benz 5,190,000 บาท (ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในตลาด SUV พรีเมียม ที่พร้อมมอบ ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ

Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé: พลังสมรรถนะที่เร้าใจไร้ขีดจำกัด

Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé คือที่สุดของ รถยนต์สมรรถนะสูง ในตระกูล SUV Coupé จากค่าย Mercedes-AMG ที่มอบความเร้าใจในการขับขี่ทุกสถานการณ์ ผสมผสานความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์คูเป้เข้ากับความแข็งแกร่งดุดันแบบ SUV ได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ภายนอก: ชุดตกแต่ง AMG bodystyling, กระจังหน้า AMG-specific radiator grille แนวตั้ง, ล้ออัลลอย AMG ขนาด 20 นิ้ว, ไฟหน้า MULTIBEAM LED, ปีก AMG และดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ ช่วยเพิ่มลุคสปอร์ตและประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
ดีไซน์ภายใน: เบาะนั่ง AMG Performance seats หุ้มหนัง AMG nappa leather, พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel หุ้ม DYNAMICA microfibre แบบท้ายตัด, แผงหน้าปัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว (All-digital instrument display) 3 รูปแบบ (Classic, Sport, Super sports) พร้อมจอแสดงผล MBUX ขนาด 12.35 นิ้ว และ Touchpad
ระบบเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย: ระบบกันสะเทือน air suspension ทำงานร่วมกับ AMG RIDE CONTROL+ ควบคุมผ่าน AMG DYNAMIC SELECT (Comfort, Sport, S+, Individual, RACE), ระบบ AMG rear axle differential lock, PRE-SAFE®, ESP®, ABS, กล้อง 360˚ camera และ Head-up display
ขุมพลัง: เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4 ลิตร ทวินเทอร์โบแบบ Hot inside V ทำงานร่วมกับ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G Sport Transmission มอบการตอบสนองที่รวดเร็วและพละกำลังมหาศาล

ด้วย ราคา Mercedes-AMG 10,790,000 บาท (ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé ยังคงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่แท้จริง

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé (รุ่นประกอบในประเทศ โฉมใหม่): SUV Coupé สมรรถนะ AMG ที่เข้าถึงง่ายขึ้น

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ โฉมใหม่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะของ AMG แต่ต้องการความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น ด้วยระบบขับเคลื่อน AMG Performance 4MATIC และดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว

ดีไซน์ภายนอก: ชุดแต่ง AMG bodystyling, กระจังหน้า AMG-specific radiator grill, ไฟหน้า MULTIBEAM LED, ล้ออัลลอย AMG 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว, ท่อไอเสีย AMG Performance exhaust system, คาลิปเปอร์เบรกสีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG และระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL+ air suspension
ดีไซน์ภายใน: เบาะนั่ง AMG Sport seat หุ้มหนัง DINAMICA microfibre ตัดเย็บด้วยด้ายแดง, ตกแต่งด้วย AMG Carbon-fibre trim, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง Nappa, ระบบกุญแจ KEYLESS-GO, ไฟเรืองแสง 64 สี, MBUX พร้อมจอสัมผัส และจอเรือนไมล์ดิจิทัล 10.25 นิ้ว
ด้านเทคโนโลยี: ระบบปรับรูปแบบขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC และระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น Distance Pilot DISTRONIC
ขุมพลัง: เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ Biturbo ทำงานร่วมกับ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G มอบพละกำลังและแรงบิดที่โดดเด่น

ด้วย ราคา Mercedes-AMG 4,990,000 บาท (ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ โฉมใหม่ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV Coupé ที่มี สมรรถนะ AMG ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น

Mercedes-Benz E 300 e (รุ่นประกอบในประเทศ): ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดแห่งอนาคต

Mercedes-Benz E 300 e คือ รถหรูไฮบริด อัจฉริยะที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

สมรรถนะและเทคโนโลยีไฮบริด: ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 13.5 kWh ซึ่งมีขนาดความจุเพิ่มขึ้น 110% จากรุ่นก่อนหน้า ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลขึ้น ชาร์จจาก 10% ถึง 100% ได้ภายใน 5 ชั่วโมงด้วย Wallbox ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,991 ซีซี 211 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ให้กำลัง System Output สูงสุด 320 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเพียง 46 กรัม/กม.
ดีไซน์ภายนอก: ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity สง่างามด้วยกระจังหน้าโครเมียม ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อ พร้อมล้ออัลลอยด์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย (E 300 e Avantgarde, E 300 e Exclusive, E 300 e AMG Dynamic) พร้อมไฟหน้า MULTIBEAM LED หรือ LED High Performance และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟในรุ่น AMG Dynamic
ดีไซน์ภายใน: หรูหราและสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO หรือ Nappa พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส (Touch Control button) และจอแสดงผล Digital widescreen cockpit พร้อมระบบ Audio 20 GPS ขนาด 12.3 นิ้ว ไฟสร้างบรรยากาศ 64 สี
ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี: มาพร้อม PRE-SAFE® system, ESP®, ABS, ADAPTIVE BRAKE, Cruise Control, ATTENTION ASSIST, PARKTRONIC, Parking Pilot และกล้องแสดงภาพด้านหลัง รวมถึงระบบ DYNAMIC SELECT และบริการ Mercedes me connect

Mercedes-Benz E 300 e มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ E 300 e Avantgarde (3,190,000 บาท), E 300 e Exclusive (3,440,000 บาท) และ E 300 e AMG Dynamic (3,770,000 บาท) (ราคา ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในกลุ่ม รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่รวมเอาประสิทธิภาพ สิ่งแวดล้อม และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

สรุป

ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์หรู เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำเสนอ นวัตกรรมยานยนต์ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค 2025 โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์แห่งความหรูหรา สมรรถนะ และความปลอดภัยไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมแล้วที่จะนำพาผู้บริโภคชาวไทยก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่แห่งการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนและไร้ขีดจำกัด

Previous Post

N0512014_กท พรากจากแม ไป20กว าป นน งเอ ญมาเจอก ในอด ตเก ดอะไรข นก นแน_part2

Next Post

N0412055_เล ยงเส ยข าวส กจร งๆ าให นเร ยนจนจบ แต บมาเนรค ณแบบน_part2

Next Post
N0412055_เล ยงเส ยข าวส กจร งๆ าให นเร ยนจนจบ แต บมาเนรค ณแบบน_part2

N0412055_เล ยงเส ยข าวส กจร งๆ าให นเร ยนจนจบ แต บมาเนรค ณแบบน_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1412031 สงครามแม เล ยงก บล กเล ยง ใครจะอย ใครจะไป!!! part2
  • N1412037 งคนท เคยลำบากมาด วยก เพ อไปคบคนรวย part2
  • N1412032 ทำไมแม องขโมยเง นของล กต วเองด วย part2
  • N1412036 คงอยากได แฟนเพ อนจนต วส งได กล าทำเร องแบบน part2
  • N1412035 าม แฟนน ยแย แบบน แนะนำอย คนเด ยวเถอะ!! part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.