• Sample Page
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
filmth.moicaucachep.com
No Result
View All Result

N0310051_เพ อสน ทค ดแย สาม เพ อน แต เค าไหวต วท และน อส งท เค าต ดส นใจทำ_part2

admin79 by admin79
September 30, 2025
in Uncategorized
0
N0310051_เพ อสน ทค ดแย สาม เพ อน แต เค าไหวต วท และน อส งท เค าต ดส นใจทำ_part2

นี่ก็เป็นอีกค่ายรถยนต์จากจีน ที่ตอนแรก กลุ่มยนตรกิจเดิม ประกาศว่าจะเริ่มทำตลาด
ในเมืองไทย แต่ไปๆ มาๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้แต่อ่างใด
แม้เวลาจะผ่านพ้นไปแล้วถึง 1 ปีเต็ม หลังจากนำมาเปิดตัวครั้งแรก ใน Motor Expo
ปี 2008 ก็ตามที

ตลอดปี 2009 ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็น GEELY CK ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งระดับ Sub-Compact
ซีดาน วางเครื่องยนต์ ที่ดัดแปลงจากรหัส 5A-FE ของ Toyota มาดัดแปลง วางอยู่ใน
ตัวรถซึ่งมีคุณภาพย้ำแย่กว่าพอสมควร กำลังแล่นทดสอบเก็บข้อมูลอยู่ จากนั้น
ทุกอย่างก็ดูจะเงียบหายไป ซึ่งมองในอีกมุม ก็ดีแล้วที่ยังไม่เริ่มทำตลาดอย่างจริงจัง

เพราะขนาดแค่โลโก้ของบริษัท ก็เป็นการเอา สัญลักษณ์ วงกลม ที่ล้อมกรอบใบพัด
ของ BMW ผนวกกับโลโก้ ของรถยนต์อเมริกัน Plymouth ที่เลิกทำตลาดไปแล้ว
มารวมไว้ด้วยกันอย่างง่ายๆ ตามประสาคนจีนแผ่นดินใหญ่ ก็แสดงให้เห็นถึง
วิธีคิดอันชาญฉลาด (แต่ดูเหมือนมักง่าย) ของบริษัทต้นสังกัด ในแผ่นดินใหญ่ อย่างชัดเจน

รอไว้ให้ บริษัทแม่ในจีน ทำรถที่ดีกว่านี้ มีคุณภาพกว่านี้ และแข่งขันได้ในตลาดโลก
มากกว่านี้เสียก่อน ค่อยสั่งเข้ามาขายกันอีกที น่าจะเป็นผลดีกับทุกผ่ายมากกว่า
——————————————

HONDA
2010 : JAZZ & CITY & Accord MINOR CHANGE
2011 : Jazz HYBRID CBU มาก่อน + ALL NEW CIVIC (PROJECT 2HC) มาปลายปี
2012 : ECO Car (Project Code : 2CV)

หลังจากปล่อยระเบิด หลายลูกถล่มใส่ตลาดรถยนต์เมืองไทยในช่วงปี 2008 พอมาปี 2009
Honda ก็เริ่มเก็บกวาดยอดขาย อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่มีการเจริญเติบโต
เกินหน้าเกินตาค่ายอื่นอย่างน่าอิจฉาที่สุด เพราะในขณะที่ชาวบ้านเขาต้องปรับลดกำลัง
การผลิตกันแต่ปัญหาของฮอนด้า กลับกลายเป็นว่า ผลิตไม่พอต่อความต้องการ ยอดจอง
ยังคงยาวเฟื้อยต่อเนื่องกันอยู่ดี จึงมีเพียงการกระตุ้นตลาด ด้วยการจับรถทุกรุ่น มาทาสีขาว
และเติมออพชัน กับชุดแต่ง Modulo เข้าไป ตั้งชื่อว่า Wise Edition ขายหมดเกลี้ยง
ในเวลาไม่ถึง 1-2 เดือน

จากนั้นพอถึงช่วง ปลายปี ก็เริ่มส่ง Civic Nanochange ด้วยสีน้ำเงินแบบใหม่
มายั่วยวนใจลูกค้า ที่กำลังชั่งใจว่า จะซื้อดีหรือไม่ เพราะปัญหาเครื่องยนต์
ในรุ่น 1.8 ที่ดังต๊อกๆ ก็ยังคงเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่วสังคมอินเตอร์เน็ต

ส่วน มินิแวน 7 ที่นั่ง รุ่น FREED ที่หลายคนรอคอย พอเปิดราคาออกมา
คนที่เคยรอ ก็พากันส่ายหัว แล้วเลิกสนใจรถรุ่นนี้กันไปเลย เพราะมันแพง
เกินเหตุ กดต้นทุนลงต่ำไปไม่ได้มากกว่านี้อีกแล้ว  ทำให้กระแสความต้องการ
หดหายไปเพียงชั่วข้ามคืน

ขณะเดียวกัน ในงาน Motor Expo ฮอนด้า ก็ปรับโฉม CR-V Minorchange ออกมา
แบบไม่ต้องรอข้ามมาถึงปี 2010 อย่างที่คาดกันไว้ เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.4 ลิตร ขับล้อหน้า
และปรับเปลี่ยนลายกระจังหน้า กับเบาะหลังแบบใหม่ ที่มีคนคอนเฟิร์มแล้วว่า
นั่งนุ่มกว่ารุ่นก่อน เยอะอยู่

ปีนี้ จึงเป็นปีที่ คาดกันว่า ฮอนด้า น่าจะอาศัยช่วงเวลาที่ยังได้เปรียบในตลาดรถยนต์นั่ง
ทะยอยเปิดตัวรุ่นปรับโฉม Minorchange ตามกำหนดเวลา เดิมๆ ต่อเนื่องกันทั้งปี
ให้กับ Jazz และ Accord ตามกระแสตลาดโลก

จากนั้น ในช่วงต้นปี 2011 เราอาจจะได้เห็น Jazz HYBRID ถูกส่งเข้ามาทำตลาดใน
เมืองไทย เพราะ ฮอนด้าเอง ก็ซุ่มทดสอบ และเก็บข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฮบริด
ในเมืองไทยกันมาหลายปีแล้ว คาดกันว่า เมื่อใดที่สำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัว
ฮอนด้า ออโตโมบิลล์ ประเทศไทย ก็คงพร้อมจะสั่งเข้าสำเร็จรูปทั้งคันมาขายก่อน
ในระยะแรก จากนั้น จึงค่อยเตรียมขึ้นสายการผลิตในบ้านเรา เป็นลำดับถัดไป
และนั่นจะทำให้ ฮอนด้า กลายเป็นผู้ผลิตรายแรกในเมืองไทย ที่ผลิตรถยนต์ไฮบริด
ในพิกัดตัวถังระดับ Sub-Compact B-Segment ออกสู่ตลาดในบ้านเรา

ส่วนใครที่ถามไถ่ว่า เมื่อไหร่ ซีวิค จะเปลี่ยนโฉม Modelchange คำตอบก็คือ ไม่ต้องรอ
ยังซื้อรุ่นปัจจุบันมาใช้ได้เลย เพราะตอนนี้ ซีวิครุ่นใหม่ รหัสโครงการ 2HC ยังอยู่ใน
ระหว่างการพัฒนา โดยมีเป้าหมายจะต้องลดขนาดตัวรถให้สั้นลง และแคบลงกว่าเดิม
เล็กน้อย ถือเผ็นการ Down-sizing ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในวงการรถยนต์ กว่าที่
เราจะได้เห็นความเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง คงต้องรอกันจนถึง ปลายปี 2010 ถึงจะเริ่มเห็น
เค้าโครงหน้าตาของรถคันจริง ในเวอร์ชันแล่นทดสอบพรางตัว เพราะกว่าจะเปิดตัว
ในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย เหลื่อมล้ำกันนั้น จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ กันยายน
ถึง พฤศจิกายน 2011 ดังนั้น ใครจะรอ ก็รอไป แต่ถ้าไม่รอ ก็ซื้อหามาขับกันได้อีก 2 ปี

ส่วนปี 2012 จะเป็นปีที่มีการอวดโฉม รถยนต์ ECO Car ที่ฮอนด้า ซุ่มเตรียมงานมานานมาก
รถเล็ก รหัสโครงการัฒนา 2CV คันนี้ จะเป็น โครงการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็ก A-segment
ระดับโลกยุคใหม่ ที่มีขนาดเล็กกว่า แจ้ส โดยรูปแบบ ของตัวรถจะเป็นแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู
วางเครื่องยนต์ บล็อก 3 สูบ 1,200 – 1,300 ซีซี น้ำหนักเบา มีกำลังประมาณไม่เกิน 90 แรงม้า (PS)
ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเป็นพื้นฐาน ส่วนเกียร์อัตโนมัติ เป็นแบบ 4 จังหวะ
พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยจะไปโผล่ในรุ่นท็อป ซึ่งอย่างน้อยๆ ต้องมีถุงลมนิรภัยมาให้ 1 ลูก
ฝั่งคนขับมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีกำหนดจะส่งขึ้นโชว์รูมได้ภายใน ช่วงปี 2012
แม้จะไม่ฉับไวเท่านิสสัน แต่ก็ถือว่าเร็วทันใจกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยเฉพาะคู่รักคู่แค้น
อย่างโตโยต้า ซึ่งต้องรอกันจนถึง 2014 !!

——————————————

HYUNDAI
2010 : TUSCON เจอกัน ครึ่งแรกของปี
            i10 จะมาเมื่อไหร่?
            GENESIS Coupe พวงมาลัยขวาตั้งไลน์เมื่อไหร่ มาไทยทันที!
            SONATA ใหม่ รอไปเถอะ ยังไม่มาง่ายๆ หรอก

2 ปีมาแล้ว ที่ฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย ในเครือของ SOJITSU เทรดดิง คัมพานี
รายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มักเป็นพาร์ตเนอร์คู่หูรายสำคัญของฮุนไดทั่วโลก ลุยตลาดรถยนต์
บ้านเรา ด้วยรถตู้ H-1 กันอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมา ก็เพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ สีขาว ฉลองครบ
2 ปีในไทย พร้อมกับยอมรับว่า ที่ผ่านมาหนะ ไม่ง่ายเลย ในการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่
จากเดิมที่เคยติดลบในใจคนไทย เพราะผู้จำหน่ายรายเก่า ให้ฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน รถรุ่นแรกๆ ที่สั่งเข้ามาพร้อมกัน ก็ทะยอยขายจนเกลี้ยงสต็อกไปหมดแล้ว
ทั้ง Sonata รุ่นเดิม ที่ระบายสต็อก ด้วยราคากระชากจิต 8 แสนบาท ปลายๆ ในรุ่น 2.0 ลิตร
ยังไม่นับรุ่นติดก๊าซ CNG ไปจนถึงรุ่น Coupe ที่ขายหมดแล้ว และจะไม่มีการสั่งเข้ามาอีก
เช่นเดียวกับ Santa Fe ที่มีลูกค้าซื้อไปไม่กี่คัน เพราะเป็นรถนำเข้า ทั้งที่แต่เดิม เตรียมแผน
ประกอบในประเทศ แต่ต้องพับไปอย่างน่าเสียดาย แล้วไหนจะมี รถบรรทุกเล็ก H-100
ที่ยังไม่บูมอย่างที่คิด เพราะไม่อาจทุ่มโฆษณาได้เต็มที่ เนื่องจากไม่อยากให้คนไทย
เข้าใจผิดว่า เป็นแบรนด์รถตู้ รถบรรทุก ไปเสียดื้อๆ

แต่ใครที่อยากได้ SUV จากฮุนได ใจเย็นกันอีกนิด เพราะตอนนี้ ฮุนได กำลังเจรจากับ
บริษัทแม่ในเกาหลีใต้ เพื่อจะสั่งนำเข้า ทูซอน (Tucson) รุ่นใหม่ล่าสุด Full Modelchange
หรือ รหัสรุ่น Hyundai FX เข้ามาเปิดตลาด ให้ทันภายในช่วงครึ่งแรกของ ปีนี้ เร็วที่สุด
ก็คงหนีไม่พ้นงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2010

นอกจากนี้ ยังจะมี i10 ฝาแฝดร่วมโครงสร้างตัวถังกับ Kia Picanto ซึ่งยังอยู่ในระหว่าง
การพิจารณาว่าจะสั่งนำเข้ามาจากประเทศใด เพื่อให้เคาะราคาขายได้ถูกในระดับ
3-4 แสนบาทเศษๆ

สิ่งที่ต้องจับตาดูกันต่อไป ก็คือ การเตรียมสั่ง GENESIS รุ่น Coupe หนึ่งในรถรุ่น
สำคัญสำหรับบุกตลาดอเมริกาเหนือของฮุนได และประสบความสำเร็จอย่างดี
จากการถูกสื่อมวลชนที่นั่น นำไปเปรียบเทียบ กับ BMW ซีรีส์ 3 คูเป้ และ
Nissan Skyline Coupe / Infiniti G37 Coupe กันเลยทีเดียว หากมีการเปิด
ไลน์ผลิตพวงมาลัยขวา เมื่อไหร่ ตลาดเมืองไทย เจอกันในแทบจะทันที
เพียงแต่ว่า หากจะนำเข้ามา ควรเป็นรุ่น 2.0 Turbo ที่มาพร้อมค่าตัว ไม่แรงเกินไป
ลูกค้ารออุดหนุนกันอยู่เพียบ ถ้าราคาไม่เกิน 2.4 ล้านบาท เพราะรุ่น V6 3.7 ลิตร
300 แรงม้า นั้น ราคา น่าจะกระชากกระเป๋าไปหยุดอยู่เฉียด 3 ล้านบาทปลายๆ
ซึ่งน่าจะขายได้เพียงแค่ไม่กี่คันเท่านั้น

อีกรุ่นหนึ่งซึ่งต้องรอดูกันต่อไป คือ Sonata ใหม่ล่าสุด Full Modelchange ที่ดูจะยัง
ไม่มีวี่แววมาเปิดตัวในไทยกันเลย ก็ไม่รู้ว่า สำนักงานใหญ่ที่เกาหลีใต้ คิดอะไร
ชักช้ายืดยาดอืดอาดกันนักหนา จะบุกแต่ตลาดอเมริกา โดยไม่หันมามองตลาดอื่น
กันบ้างเลยหรือยังไง? รถที่น่าจะขายดีแบบนี้ รีบเปิดไลน์พวงมาลัยขวา
ส่งมาทำตลาดในไทยกันให้เร็วๆได้แล้ว ตั้งราคาดีๆ รับรองงานนี้ เจ้าตลาด D-Segment
ทั้ง Toyota Camry Nissan Teana และ Honda Accord อาจต้องหาผ้าห่มมาคลายหนาว
ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว!

—————————————–
ISUZU
2010 : Last NANOCHANGE of  D-MAX
2011 : THE NEXT D-MAX “PROJECT Code : RT-50 ” เลื่อนจาก 2010
2012 : ALL NEW RT50 SUV ( MU-7 REPLACEMENT)

การประคับประคองตลาดต่อไป ในช่วงครึ่งแรกของปี ตามด้วยการสร้างความฮือฮา
ให้กับตลาดด้วยการเปิดตัว D-Max และ MU-7 Super Platinum ที่มาพร้อมระบบ
นำทาง GPS Navigation System อันเป็นความร่วมมือระหว่าง Garmin กับ KENWOOD
ในชื่อ i-Genie ถือเป็นการสร้างความฮือฮา ชนิดที่คู่แข่งรายอื่น ได้แต่นั่งอ้าปากหวอ
ดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า อีซูซุ จะกลายเป็นผู้ผลิตรายแรกในไทย
ที่ติดตั้งระบบนำทาง ให้กับรถกระบะของตน ไม่เว้นแม้แต่รุ่น Space Cab 2WD
อันเป็นรุ่นยอดนิยมของตลาดต่างจังหวัด

ปี 2010 ยังเป็นปีที่ อีซูซุ จะต้องเข็นยอดขายกันอย่างเหนื่อยอ่อนต่อไป
อีกสักพักหนึ่ง ด้วยการเพิ่มรุ่นพิเศษ หรือรุ่นกระตุ้นตลาดอีกสักรุ่น ก่อน
การมาถึงของ รุ่นเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ สำหรับ D-Max รหัสโครงการ
RT50 เพราะมิเช่นนั้น การลากทำตลาดดีแมกซ์รุ่นปัจจุบัน โดยไม่มีการ
ปรับปรุงอะไรเลย ในปีนี้ อาจจะถึงขั้นทรุดจนเข่าอ่อนได้ง่ายๆ แต่ถ้า
ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ชื่ออะไรนั้น

ผมขอเสนอ ชื่อ Hyper Platinum สักหน่อยเป็นไงครับ?

ด้านโครงการ RT-50 ยังคงปิดเป็นความลับ และดูจะไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมใดๆ
มากไปกว่าการที่อีซูซุ จะยังพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่นี้ต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือ
จาก GM เช่นเคย แต่คงจะลดการพึ่งพากันให้น้อยลง หลังจากที่ จีเอ็ม ถอนหุ้น
ออกจากอีซซุไปมากแล้ว ดังนั้น ฐานการพัฒนาหลัก จึงยังคงอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
และไทย เบื้องต้นนั้น RT50 จะใช้โครงสร้างวิศวกรรมร่วมกับ รถกระบะรุ่นใหม่
ของเชฟโรเลต จากโครงการ GMI700 แต่ปรับปรุงจุดด้อยต่างๆ ให้มากที่สุด
เท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังต้องเพิ่ม บานแค็บเปิดได้ ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า
ขณะที่เครื่องยนต์ จะถูกปรับปรุงใหม่ บนพื้นฐานของเครื่องยนต์เดิมตระกูล
Ddi i-TEQ ที่ออกขายกันอยู่แล้ว ทั้ง 2,500 และ 3,000 ซีซี

กำหนดคลอดอย่างเป็นทางการนั้น เดิมที จะเริ่มขึ้นสายการผลิตจริง SOP
(START ON PRODUCTION) ในเดือนมกราคม 2010 แต่ด้วยเหตุที่ โครงการนี้
ถูกเลื่อนออกไป ทำให้ กำหนดการเปิดตัว ของ RT-50 น่าจะอยู่ที่ไตรมาสสุดท้าย
ของปี 2011 แต่ที่แน่ๆ อีซูซุ จะเปิดตัวก่อนหน้าเวอร์ชันฝาแฝด รุ่นเปลี่ยนโฉม
Full Modelchange ของ  Chevrolet Colorado รหัสโครงการ GMI 700 แน่นอน

ส่วนเวอร์ชันเอสยูวี หรือรุ่นเปลี่ยนโฉมของ MU-7 นั้น จะถูกสร้างขึ้นบน
โครงสร้างพื้นฐานของ D-Max ใหม่ RT-50 ตามกำหนดการเดิม ถูกวางไว้
ให้ขึ้นสายการผลิตจริง ในเดือนมกราคม 2011 เห็นท่ามีอันต้องเลื่อนออกไป
กลายเป็นช่วงต้นปี 2012 แทน

—————————————–

JAGUAR
พี่ใหญ่ XJ น่าจะมา พร้อมราคาไกลเกินเอื้อม

การถูกซื้อกิจการจากอ้อมอกของฟอร์ด ผู้ร้อนเงิน ไปอยู่ในเครือของ ทาทา มอเตอร์
ร่วมกับแลนด์โรเวอร์ คือข่าวใหญ่ของแจกัวร์ ในต่างแดน มาตั้งแต่ปี 2008 ต่อเนื่อง
ถึง 2009 แต่สำหรับเมืองไทย หลังการเปิดตัว XF ซีดานใหม่ กลางสยามพารากอน
เมื่อปี 2008 ซึ่งมีเศรษฐีให้ความสนใจ ซาลูนสุดหรูราคาล้ำจินตนาการ คือว่ากันที่
6.2 ล้านบาทขึ้นไป แต่ใช้วัสดุในห้องโดยสาร เกรดเดียวกับ วอลโว S80 อดีต
เพื่อนพ้องร่วมสำนัก ยังพอมีอยู่บ้าง

จนกระทั่ง ปี 2009 AAS ในฐานะผู้นำเข้ายนตรกรรมระดับพรีเมียม ก็ได้นำเข้า
เวอร์ชันดุเดือด XF ในรหัส XF-R เข้ามาเรียบร้อยแล้ว ด้วยราคา 13 ล้านบาทปลายๆ
เกือบแตะ 14 ล้านบาท ส่วน XF เอง ก็ขายออกไปได้หลายคันอยู่

ปี 2010 ทาง AAS น่าจะอยู่ในระหว่าง เตรียมสั่งรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคันของ XJ
รถยนต์ซีดานรุ่น Flagship ที่ปฏิวัติแนวทางการออกแบบของ ยนตรกรรมสัญชาติ
อังกฤษกันไปเลย ด้วยราคาที่คาดว่า น่าจะมี เกินกว่า 10 ล้านบาท ขึ้นไปไกลโขอยู่
 
——————————————

KIA / NAZA
SOUL & CERATO / FORTE
2 ตัวนี้ จับตาดูดีๆ

ปีที่ผ่านมา ยนตรกิจเกีย เงียบเป็นเป่าสาก หากไม่ได้อานิสงค์ จากยอดขาย ที่พอรับได้
ของ Naza Forza ซึ่งยนตรกิจอ้างว่า เป็นรถยนต์มาเลเซีย ทั้งที่แท้จริง เป็นรถยนต์จากจีน
ยี่ห้อ ฮาเฟ่ย โลโบ้ ราคาเริ่มต้น 389,000 บาท ที่เริ่มปล่อยรถให้ลูกค้าไปแล้ว ก็คงไม่มีอะไร
ให้ตื่นเต้นกันเลย นอกจากทำตลาด Grand Carnival ใหม่ SUV รุ่น Sorento สต็อกเก่า
รถบรรทุกเล็ก K2700 และ เจ้าตัวเล็ก ชื่อทะลึ่ง Picanto ราคา 4 แสนบาทกลางๆ กันไปเรื่อยๆ

แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เกีย ปล่อยข่าวว่า กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อม เพื่อจะนำ
SOULS Crossover SUV ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างอย่างโดดเด่น และเป็นรถแฟชันจ๋าๆ คันแรก
ของชาวเกาหลีใต้ กับ คอมแพกต์ซีดาน รุ่น Forte หรือที่ทำตลาดทั่วโลกในชื่อ Cerato เครื่องยนต์
1.6 และ 2.0 ลิตร ซึ่งดูคันจริงแล้ว น่าเป็นเจ้าของอย่างมาก เพราะเวอร์ชันตลาดโลกนั้น ออพชัน
ที่อัดเข้ามาให้ แน่นเอี๊ยด จนไม่รู้จะเติมใส่อะไรเข้าไปได้อีก

ตอนนี้เราได้แต่รอดูว่า การเจรจากับบริษัทแม่ในเกาหลีใต้จะเป็นอย่างไร แล้วรถรุ่นไหน
จะถูกสั่งเข้ามาขายก่อนกัน อีกทั้งการบริการหลังการขาย จะยังปรับปรุงเพื่อรองรับการมาถึง
ของรถรุ่นนี้ ได้ดีแค่ไหน?

และถ้าจะถามว่า ควรจะใช้ชื่อไหนในไทย ความเห็นของ Headlightmag.com
ขอให้เป็นชื่อ Cerato จะเหมาะที่สุด

——————————————

LAMBORGHINI
LP 550-2 Valentino Balboni

ค่ายกระทิงดุ ภายใต้การทำตลาดของ NICHE CAR ยังคงมียอดขายได้แบบเรื่อยเปื่อย
สบายๆ จะว่าไปแล้ว ทั้ง Murcialago กับ Gallado แทบจะทุกรุ่น ก็ถูกนำเข้ามาสนอง
ความต้องการของนักเลงรถระดับเสรษฐีมีเงินเป็นโกดัง กันเกือบหมดแล้ว แม้แต่รุ่น
LP670-4 SV ราคา 39 ล้านบาท ก็มีผู้จับจองเป็นเจ้าของไปเรียบร้อยแล้ว  

ปีนี้ มีวี่แววว่า เราอาจจะได้เห็น  Lamborghini Gallardo LP 550-2 Valentino Balboni
ซึ่งสร้างขึ้น เพื่อเป็นเกียรติ และตามความต้องการของ นักขับทดสอบประจำบริษัท
ชื่อเดียวกับชื่อรุ่นรถ ซึ่งทำงานที่นี่มาตั้งแต่ปี 1968 จะว่าไป มีไม่บ่อยครั้งหรอก
ที่บริษัทรถยนต์จะให้เกีรติกับพนักงานของตนเอง มากมายขนาดนี้ วางเครื่องยนต์ V10
5,204 ซีซี 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 55.02 กก.-ม. และขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเกียร์ธรรมดา
6 จังหวะ ถือเป็นแลมโบฯ เพียงไม่กี่รุ่น ที่ใช้ระบบ ขับเคลื่อนล้อหลัง รถรุ่นนี้ เพิ่งเปิดตัว
สู่ตลาดโลกไปหมาดๆ กันบนถนนเมืองไทย หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน เดี๋ยวสักพัก
ก็คงจะมีเศรษฐีไทยใจรักสนุกสักคน เดินเข้าไปสั่งออร์เดอร์กับทางนิชคาร์ แน่ๆ

——————————————

LAND ROVER
2009 : Disco IV & New Range Sport แอบมากันอย่างเงียบๆ
2010 : Freelander FaceLifted

หลังจาก แลนด์โรเวอร์ อังกฤษ ประกาศ ยุติบทบาทของ แลนด์โรเวอร์ ไทยแลนด์ ไป
จนทำให้เกิดปัญหาคาราคาซังวุ่นวาย พอล่วงเข้าช่วงกลางปี 2008 กัวว่า มอเตอร์ ก็เข้ามา
สวมสิทธิ์การทำตลาดของ แลนด์โรเวอร์ ไทยแลนด์ไป พร้อมกับตั้งเป้าจะดูแลการทำตลาด
ของ เอสยูวีค่ายนี้ อีกกว่า 26 ประเทศ ขณะเดียวกัน บริษัทแม่ในอังกฤษ ก็โดนเจ้าของเดิม
คือ Ford ขายกิจการแพ็คคู่ร่วมกับ Jaguar ให้กับ Tata Motor จากแดนภารตะไปในช่วง
เดือนมีนาคม 2008

พอล่วงเข้า 2009 ความเคลื่อนไหว ก็เงียบหายดุจเข้ากลีบเมฆ มีเพียงการแต่งตั้ง บริติช มอเตอร์
ดีลเลอร์ที่มีประสบการณ์ค้ารถจากต่างประเทศ มาดูแลการทำตลาดในไทย แทนกัวว่า จะลงมือเอง
เสียที ส่วนการบริการหลังการขาย ทางกัวว่า กับบริติช มอเตอร์ จะช่วยกันรับผิดชอบ ทุกรุ่น ทุกคัน
ที่มีวิ่งเล่นอยู่ในเมืองไทย ดังนั้น ช่วงงาน Motor Expo ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา เราจึงเห็น แลนด์โรเวอร์
กลับมาออกบูธจัดแสดง Discovery IV และ Range Rover Sport Minorchange ใหม่ล่าสุดจากยุโรป
ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดชิ้นส่วนต่างๆ เยอะมาก มาขายในราคาใหม่ ที่แพงกว่าเก่า เพราะงานนี้
เขาตั้งใจว่า จะขอจ่ายภาษีให้ประเทศชาติเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่เลี่ยงภาษีเหมือนค่ายอื่นๆ  

แต่ในปี 2010 นั้น ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอันนัก มีเพียงการรอคอย Freelander
Minorchange ที่จะต้องถึงเวลาเปิดตัวในตลาดโลก ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ว่า จะมีตกมาถึงเมืองไทย
กันสักกี่คัน ลำพัง รุ่นปัจจุบัน ก็ขายกันที่ 3.99 ล้านบาท และยากจะหาคนมาอุดหนุนด้วยอยู่แล้ว

——————————————

LOTUS (By Niche Cars)
EVORA Automatic

จั่วหัวอย่างกับชื่อของ มอเตอร์ไซค์ เกียร์อัตโนมัติ ซะอย่างนั้น แต่อันที่จริงแล้ว มันคือ เวอร์ชัน
เกียร์อัตโนมัติ ของรถสปอร์ตรุ่นล่าสุด จากค่ายดอกบัวอังกฤษ ที่ นิชคาร์ส เป็นผู้สั่งเข้ามาจำหน่าย
อย่างเป็นทางการ ณ ขณะนี้

EVORA เปิดตัวในไทยไปแล้ว เมื่อ 18 พฤษภาคม 2009 แต่ การส่งมอบน่าจะเริ่มต้นได้เมื่อช่วง
เดือนธันวาคมที่ผ่านมา และยังเป็นรถรุ่นเกียร์ธรรมดาล้วนๆ แต่ถ้าใครอยากได้รุ่นเกียร์อัตโนมัติ
ไว้ขับเท่ๆ เป็นหลัก เตรียมรอพบ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่ออกจะน่าตกใจซักหน่อย เพราะว่า
โลตัสอังกฤษ เล่นง่ายมาก ด้วยการ ยกเอาเกียร์ของ Toyota Camry V6 3.5 ลิตร ในบ้านเรา สวมแหมะ
ใส่เข้าด้วยกันเสร็จสรรพ!

ทีนี้ก็หวานหมูอู่ซ่อมรถไทยกันแน่ๆ แต่เศรษฐีเงินหนา อาจส่ายหัว เพราะว่า เกียร์ลูกนี้ ปกติ Toyota
ขายในศูนย์อะไหล่ของตน ลูกละประมาณ 250,000 บาท ฟังดูเหมือนลดเกรด ทอนศักด์ศรี แต่ถ้าคิดให้ดีๆ
งานนี้ ถือว่ากำไรคนซื้อใช้ เพราะถ้าเกียร์พังเมื่อไหร่ เดินถามไถ่ในเซียงกงกันได้ไม่น่ายากเย็น
คาดว่ารถรุ่นนี้ จะมีกำหนดเข้าเมืองไทย ในช่วงใดช่วงหนึ่งของปี 2010

——————————————

MAZDA   
2010 : Mazda 2 Sedan ปลายมกราคม และ Mazda 3 “LAST Nanochange”
2011 : Mazda 3 Next Gen. Made in Thailand & All new BT-50 (Project Code : T6 )

การเปิดตัว Mazda 2 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา กลายเป็นปรากฎการณ์
ครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 50 กว่าปี ของ มาสด้าในเมืองไทย เพราะเป็นการทุ่มโฆษณา
เปิดตัวรถรุ่นใหม่ของค่ายซามูไร เลือดฮิโรชิมา ที่บ้าระห่ำที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
และทุกกิจกรรมที่ทำลงไป ทุกสื่อที่รถคันนี้ปรากฎตัว พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์ ดังระดับ
ทุกค่ายอิจฉา อย่าง เป้ อารักษ์ ล้วนได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนทำให้
เพียงเปิดตัว 15 วัน ยอดขายก็แซง Toyota Yaris 1 ในเจ้าตลาด ไปยืนบนแท่น
อันดับ 2 ของตลาด B-segment Sub-Compact Hatchback เรียบร้อยแล้ว เป็นรองแค่
Honda Jazz เท่านั้น!! ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือ แม่ทัพหญิง พี่ซู สุรีย์ทิพย์ ละอองทอง
และทีมงาน ที่ทำงานร่วมกับนายใหญ่ จอห์น เรย์ ได้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนใน
วงการรถยนต์ว่า เธอคนนี้แหละ “คนจริง ของจริง”

ขณะเดียวกัน ปีที่ผ่านมา มาสด้ายังไม่ทิ้งตลาดกลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว
รุ่นปรับโฉม Minorchange ของรถสปอร์ตเปิดประทุน MX-5 การกระตุ้นตลาด
รถกระบะ ให้คึกคัก ด้วย BT-50 Nano Change ที่ปรับงานออกแบบใหม่ และเพิ่ม
สีตัวถังใหม่ ให้สวยสะดุดตายิ่งขึ้น ก็ยังพอช่วยให้ยอดขายของรถกระบะมาสด้า
แซงพ้นจากการเป็นหางแถวมาไกลพอสมควร ส่วน Mazda 3 ก็ยังเพิ่มรุ่น
พิเศษ Life & Play รักษาระดับยอดขายไว้เรื่อยๆ แถมยังมีรายการหยอดท้ายช่วง
ปลายปี ส่ง Mazda CX-9 Crossover SUV 7 ที่นั่ง เข้ามาหยั่งเชิงเศรษฐีเมืองไทย
ด้วยราคาปาเข้าไป 3.6 ล้านบาท อวดโฉมใน Motor Expo ร่วมกับ Mazda 2 นั่นละ

แต่ยังก่อน แผนกระแทกตลาด Sub-Compact B-Segment ยังไม่จบ เพราะทันที
ที่ ตัวถังแฮตช์แบ็กของ Mazda 2 เปิดตัวออกไป มาสด้า ก็รีบเตรียมแผน เปิดตัว
รุ่นซีดาน กันต่อเนื่องในทันที เพื่อให้ทันกำหนดเปิดตัว ปลายเดือนมกราคม 2010
ที่ใกล้จะมาถึง จับตาดูให้ดีว่า คราวนี้ มาสด้าจะกระตุกหนวด Toyota Vios
และ Honda City รวมทั้งเขี่ย Chevrolet Aveo 1.6 ให้พ้นสายตาลูกค้า  ด้วยวิธีใด

ส่วนช่วงครึ่งหลังของปี พี่ใหญ่อย่าง Mazda 3 ยังต้องมีการแต่งศิลป์ประทินโฉม
กันอีกสักครั้งหนึ่ง ในระดับที่เรียกกันเล่นๆว่า Nanochange คือ ไม่เปลี่ยนอะไร
มากมายนัก เอาแค่รักษาระดับยอดขายไว้ ให้ลดลงตามอายุตลาดที่ใกล้จะหมด
ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในระหว่างรอการมาถึงของ Mazda 3 Full Modelchange
ที่จะย้ายไล์ประกอบจากฟิลิปปินส์ กลับมาอยู่ในโรงงาน AAT ที่ระยอง กันตามเดิม
ซะที และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเปิดตัวล่าช้าไปกว่าที่ควรจะเป็นถึง 2 ปี
คาดว่าคราวนี้ อาจจะมีรุ่น “ปรับอุปกรณ์” ให้เหมาะสมกับเมืองไทย มาทำตลาดกัน
ภายในช่วงต้นปี 2011 เป็นอย่างช้าที่สุด


จากนั้น ช่วงปลายปี 2011 จะถึงคิวของ รถกระบะ จากโครงการ T6 Project ที่พัฒนา
ร่วมกับฟอร์ด แต่ในเวอร์ชันของมาสด้านั้น จะมีรูปลักษณ์ภายนอก แตกต่างออกไป
และพลิกโฉมไปจากรถรุ่นปัจจุบัน อย่างสิ้นเชิง มาในแนว Stylish Pickup โดยเฉพาะ
ด้านหน้าของรถ ที่ว่ากันว่า จะคล้ายกับ รถแข่งต้นแบบ Furai ที่อวดโฉมบน
เวทีมอเตอร์โชว์ทั่วโลกมาแล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน โดยยังคงวางเครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล
เทอร์โบ 2.5 และ 3.0 ลิตรเช่นเดิม และคราวนี้ จะออกแบบมาเพื่อรองรับการบรรทุก
ได้เยอะกว่ารถรุ่นก่อน ก็แน่ละ โครงสร้างตัวถังคราวนี้ ถูกขยายใหญ่พอกันกับ Toyota Vigo
ในทุกมิติกันเลยนี่นา

——————————————

Mercedes-Benz
2010 : NEW E-CLASS CKD Made in Thailand
           New S-CLASS MINOR CHANGE
           New Line-up of the “BLUE Efficiency Engine”
           SLS AMG

Previous Post

N0310046_ทำไมเธอถ งโยนช ดช นในใส รถคนอ นด วย พอร เหต ผลถ งก บอ_part2

Next Post

N0310035_สาวจรจ ดคนน อใคร ทำไมเศรษฐ องมอบมรดกให เธอ_part2

Next Post
N0310035_สาวจรจ ดคนน อใคร ทำไมเศรษฐ องมอบมรดกให เธอ_part2

N0310035_สาวจรจ ดคนน อใคร ทำไมเศรษฐ องมอบมรดกให เธอ_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1412031 สงครามแม เล ยงก บล กเล ยง ใครจะอย ใครจะไป!!! part2
  • N1412037 งคนท เคยลำบากมาด วยก เพ อไปคบคนรวย part2
  • N1412032 ทำไมแม องขโมยเง นของล กต วเองด วย part2
  • N1412036 คงอยากได แฟนเพ อนจนต วส งได กล าทำเร องแบบน part2
  • N1412035 าม แฟนน ยแย แบบน แนะนำอย คนเด ยวเถอะ!! part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.