Volkswagen เตรียมพัฒนารถยนต์หรูเทียบชั้น Audi หลังประสบปัญหากำไรหดแม้จำหน่ายได้มากกว่า เล็งรีแบรนด์ที่จีนก่อนใคร
อย่างที่ทราบกันดีว่าโฟล์กสวาเกน (Volkswagen) และออดี้ (Audi) เป็นค่ายรถยนต์ในเครือเดียวกันแต่ต่างกันที่ลักษณะการทำตลาด โดยโฟล์กสวาเกนจะเน้นที่รถยนต์ใช้งาน ส่วนออดี้จะเน้นไปที่ตลาดรถยนต์หรู แต่ล่าสุด โฟล์กสวาเกนก็เริ่มขยับตัวหาแนวทางใหม่เพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น โดยแนวทางดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อออดี้โดยตรง
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวบิซิเนส อินไซเดอร์ รายงานว่า โฟล์กสวาเกนเตรียมแผนการปรับตัวเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ให้กลายเป็นรถยนต์หรูเต็มตัวในตลาดบางประเทศ หวังแก้ปัญหากำไรหดหายแม้จะผลิตจำหน่ายได้เป็นจำนวนมากเป็น 3 เท่าของออดี้ แต่ผลกำไรกลับน้อยกว่าที่ออดี้ทำได้กว่าครึ่งหนึ่ง
เมื่อแจกแจงตัวเลขยอดขายระดับโลกช่วงครึ่งปีแรกของปี 2014 โฟล์กสวาเกนทำยอดขายได้มากถึง 2.3 ล้านคัน แต่มีผลกำไร 1,010 ล้านยูโร (ประมาณ 41,000 ล้านบาท) ส่วนออดี้มียอดขายเพียง 750,000 คัน แต่สามารถทำกำไรได้มากกว่าถึง 2,670 ล้านยูโร (ประมาณ 110,000 ล้านบาท) เห็นได้ชัดเจนว่าตลาดรถยนต์หรูให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ โฟล์กที่เล็งเพิ่มผลกำไรจึงพยายามเข้าสู่ตลาดดังกล่าวให้ได้
แนวทางใหม่ของโฟล์กจะเริ่มจากในประเทศจีน โดยส่งซีดานหรูรุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานของออดี้ เอ6 (Audi A6) เข้าทำตลาด ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
เยล จาง หัวหน้าฝ่ายจัดการบริษัทปรึกษาด้านธุรกิจยานยนต์ในจีนกล่าวว่า ปัญหาของโฟล์กสวาเกนคือการตั้งราคาของรถยนต์หรูดังกล่าว เพราะถ้าหากตั้งราคาสูงเกินไป ลูกค้าก็พร้อมจะกลับไปหาออดี้ แต่ถ้าตั้งราคาต่ำเกินไป กำไรก็อาจไม่เพิ่มขึ้นตามที่หวัง
นอกจากรถยนต์พื้นฐานออดี้ เอ6แล้ว โฟล์กยังเตรียมซีดานหรูรุ่นใหม่สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ ใช้ชื่อรหัสว่า 511 โดยทำการออกแบบในยุโรป และดำเนินการผลิตในประเทศจีนโดยโรงงานในเมืองเซี่ยงไฮ้ ภายในปี 2015 ซึ่งซีดานรุ่นดังกล่าวเกิดมาเพื่อเทียบชั้นกับเมอร์เซเดส เบนซ์ ซี คลาส (Mercedes Benz C-Class)
โดยนอกจากเรื่องรถรุ่นใหม่แล้ว โฟล์กสวาเกนยังเตรียมเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายขึ้นอีกอย่างน้อย 100 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี โดยทำภาพลักษณ์และบริการให้แตกต่างจากออดี้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากแผนการเพิ่มผลกำไรด้วยการเป็นค่ายรถยนต์หรูในจีนสำเร็จ อนาคตของออดี้ก็อาจสั่นคลอน เพราะโฟล์กก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาออดี้ในการสู้กับบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และเมอร์เซเดส เบนซ์ (Mercedes Benz) อีกต่อไป
