ออดี้ประกาศเปิดตัว 2015 ออดี้ คิว7 (2015 Audi Q7) เจนเนอเรชั่นที่สองออกมาแล้ว พร้อมเคลมว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในระดับเดียวกัน
น้ำหนักตัวถังของคิว7 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ที่ 1,995 กก. ซึ่งเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 325 กก. เพิ่มความประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 26% เลยทีเดียว ทางออดี้เน้นการใช้แชสซีส์ที่ผลิตด้วยโลหะความทนทานสูงและอลูมิเนียมผสมผสานกัน ขณะที่ชิ้นส่วนสำคัญอย่างฝากระโปรง ซุ้มล้อและแผงประตูก็ผลิตด้วยอลูมิเนียมเช่นกัน
ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งกรอบไฟหน้าได้ทั้งซีนอน แอลอีดีหรือแมทริกซ์ แอลอีดี (matrix LED) ซึ่งทุกรูปแบบจะมาพร้อมเดย์ไลท์ LED ในตัว ขณะที่รุ่นท็อปไลน์ยังมาพร้อมไฟเลี้ยวแบบวิ่งตามทิศทางการเลี้ยวด้วย
ถ้าเทียบมิติตัวถังกับรุ่นก่อนหน้า คิว7 เจนเนอเรชั่นใหม่จะมีขนาดสั้นลงและแคบลง แต่ส่วนสูงยังคงเท่าเดิม ทางออดี้ยืนยันว่าพื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งพื้นที่ช่วงขาและศีรษะที่ถูกขยายขึ้นอีก 21 มม.และ 41 มม. ตามลำดับ

การตกแต่งภายในห้องโดยสารเน้นความล้ำสมัยถอดแบบมาจากรถสปอร์ตทีทีเจนเนอเรชั่นล่าสุด โดยมีระบบอินโฟเทนเมนท์ MMI ลดจำนวนปุ่มกดและสวิทช์ต่างๆ โดยใช้หน้าจอทัชสกรีนแทน รองรับระบบ Google Android Auto และ Apple CarPlay มาพร้อมเครื่องเสียง Bose หรือ Bang & Olufsen ให้เลือกสรร มีกำลังขับ 1,920 วัตต์ผ่านลำโพงถึง 23 ตัว
เบาะหลังยังมีระบบความบันเทิงเต็มพิกัด สามารถเลือกหน้าจอแทบเล็ตขนาด 10.1 นิ้วได้ทั้งหนึ่งตัวหรือสองตัว เชื่อมต่อได้ด้วยบลูทูธ เอ็นเอฟซีและแอลทีอี
ในส่วนของเครื่องยนต์เริ่มจากดีเซล 3.0 ลิตร TDI พละกำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 234 กม./ชม. อัตรากินน้ำมัน 17.5 กม./ลิตร โดยทางออดี้จะแนะนำรุ่นดีเซล 3.0 ลิตร TDI ที่มีพละกำลังน้อยกว่าในภายหลัง
สำหรับรุ่นเบนซิน 3.0 ลิตร TFSI ให้พละกำลัง 333 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. กินน้ำมัน 12.9 กม./ลิตร ปล่อยมลพิษไอเสีย 179 กรัม/กม.

ขณะเดียวกัน ออดี้ยังจะแนะนำคิว7 ขุมพลัง 2.0 ลิตร TFSI สำหรับตลาดเอเชียและสหรัฐอเมริกา มีพละกำลังอยู่ที่ 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่คิว7 รุ่นปลั๊กอินไฮบริดอี-ทรอน ควอตโตร (e-tron Quattro) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร TDI ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ทิปทรอนิก 8 สปีด ซึ่งมีพละกำลังสูงสุด 373 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ถือเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดดีเซลรุ่นแรกของออดี้ กินน้ำมันประหยัดสุดๆ ระดับ 58.8 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 50 กรัม/กม. สามารถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าได้ไกล 56 กม.
อัตราเร่งของคิว7 อี-ทรอน ควอตโตรออกตัวจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม.
รวมราคาเฉลี่ย Audi Q7 มือสองแต่ละรุ่น และแนะนำรถน่าซื้อ สภาพดี พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ จากประกาศขายรถยนต์ในปัจจุบัน

รถ Audi Q7 มือสอง รุ่นที่น่าสนใจ
ราคาขาย และรายละเอียด Audi Q7 มือสอง
Audi Q7 รถยนต์อเนกประสงค์จากเยอรมัน เปิดตัวตั้งแต่ปี 2005 มีการเปลี่ยนโฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อปี 2010 และเปิดตัวโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2015-ปัจจบัน หากใครได้สัมผัส คงติดใจแน่นอน เพราะ Audi Q7 เป็นรถที่ขับขี่สนุก มั่นใจทั้งช่วงล่างและเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีทันสมัยตามฉบับรถยุโรป (แม้สเปคบ้านเราจะน้อยกว่าเมืองนอกก็ตาม) และที่สำคัญผ่านการทดสอบ Euro NCAP ระดับ 5 ดาว สำหรับราคารถใหม่ จะเริ่มต้นราว 4 ล้านต้นๆ แต่ถ้าใครสนใจ รถยนต์มือสอง วันนี้ khaorot.com เรามีข้อมูลราคาเฉลี่ย พร้อมรายละเอียดแต่ละโฉม และแนะนำรถสภาพดีน่าซื้อ จากประกาศขายรถยนต์มาฝากครับ

Audi Q7 เจเนอเรชั่นที่ 1 รุ่นปี 2005-2015 (รหัส 4L)
รายละเอียด Audi Q7 แต่ละโฉม
เจเนอเรชั่นที่ 1 รุ่นปี 2005-2015 (รหัส 4L)
Audi Q7 ถือเป็น SUV รุ่นแรกของทางค่าย ที่ผลิตออกมา โดยมีขนาด 7 ที่นั่ง สร้างขึ้นบนเพลทฟอร์ม Volkswagen Group PL71 platform โดยมีลักษณะกึ่งออฟโรด (ให้อารมณ์ขับสนุกด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ไม่ได้ลุยแบบสมบุกสมบัน) และคงความหรูหราตามฉบับ Audi ไว้อย่างลงตัว จากคอนเซปต์ “Pikes Peak” โดยมาพร้อมกับระบบ Audi Music Interface (AMI) รวมถึงระบบความปลอดภัย อาทิ Side Assist, ESP ผ่านการทดสอบ Euro NCAP ระดับ 4 ดาว และ NHTSA ระดับ 5 ดาว สำหรับขุมพลัง มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน ดังนี้
เครื่องยนต์เบนซิน
- รุ่น 3.6 FSI ขนาด 3,597 ซีซี กำลัง 280 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500–5,000 รอบ/วินาที
- รุ่น 4.2 FSI ขนาด 4,163 ซีซี กำลัง 350 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบ/วินาที
เครื่องยนต์ดีเซล
- รุ่น 3.0 TDI ขนาด 2,967 ซีซี V6 turbo กำลัง 233- 240 แรงม้า (PS) แรงบิด 500-550 นิวตัน-เมตร
- รุ่น 3.0 TDI clean diesel ขนาด 2,967 ซีซี V6 turbo กำลัง 240 แรงม้า (PS) แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร
- รุ่น 4.2 TDI ขนาด 4,134 ซีซี V8 turbo กำลัง 326 แรงม้า (PS) แรงบิด 760 นิวตัน-เมตร
- รุ่น 6.0 TDI ขนาด 5,934 ซีซี V12 twin turbo กำลัง 500 แรงม้า (PS) แรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร
ซึ่งโฉมแรกนี้ แม้จะขับสนุกแต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าชาวบ้าน เฉลี่ย 6-12 กิโลเมตร/ลิตร
ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ปี 2010–2015
มีการปรับไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวเป็น LED พร้อมติดตั้งไฟ Daytime Running Light เปลี่ยนล้อลายใหม่ กระจังหน้า และกันชนหลังปรับดีไซน์ใหม่ และเพิ่มสีตัวถังขึ้นมาอีก 4 สีด้วยกัน นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังตกแต่งใหม่ในบางจุด อาทิ MMI เวอร์ชั่น 3, เบาะหนังแบบใหม่ และไฟภายในห้องโดยสาร เป็นต้น ด้านเครื่องยนต์ รุ่น 3.6 FSI และ 4.2 FSI เปลี่ยนเป็น 3.0 L TFSI ซุปเปอร์ชาร์จ กำลัง 272 แรงม้า และ 3.0 TFSI quattro S-Line กำลัง 333 แรงม้า
Audi Q7 เจเนอเรชั่นที่ 2 รุ่นปี 2015-ปัจจุบัน (รหัส 4M)
เจเนอเรชั่นที่ 2 รุ่นปี 2015-ปัจจุบัน (รหัส 4M)
Audi Q7 โฉมนี้ พัฒนาบนโครงสร้างใหม่ MLB Platform (PL-73) โดยมีการปรับดีไซน์ให้ดูดุดันมากขึ้น ส่วนภายในเรียบหรู นอกจากนี้ยังเพิ่มรุ่น Audi Q7 e-tron 3.0 TDI Quattro plug-in hybrid ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด กำลังรวม 387 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 63 กิโลเมตร/ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 TFSI กำลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 40 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนระบบความปลอดภัยได้รับการประเมินจาก Euro NCAP ระดับ 5 ดาว

