ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไม่หยุดนิ่ง การขับเคลื่อนและการครอบครองรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบายหรือสถานะทางสังคมอีกต่อไป แต่ยังพ่วงมาด้วยความททายใหม่ๆ โดยเฉพาะภัยคุกคามจากการโจรกรรมที่นับวันยิ่งซับซ้อนและแนบเนียนขึ้น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ผมได้เห็นวิวัฒนาการของการโจรกรรมรถยนต์มาอย่างใกล้ชิด จากการงัดแงะด้วยเครื่องมือพื้นฐาน สู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย
ย้อนไปเมื่อปี 2018 ข้อมูลจาก Tracker ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบติดตามรถยนต์ระดับโลก ได้เปิดเผยแนวโน้มที่น่าตกใจว่าจำนวนรถยนต์ที่ใช้ระบบกุญแจแบบ Keyless และถูกขโมยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 88% ของรถที่สูญหายไปนั้น โจรไม่ได้ใช้กุญแจติดรถยนต์ของเจ้าของเลยแม้แต่น้อย นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกลยุทธ์การโจรกรรมรถยนต์ และในปี 2025 นี้ สถานการณ์ได้พัฒนาไปอีกขั้น ความแม่นยำและประสิทธิภาพของกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเข้าถึงรถยนต์เป้าหมายก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง บทความนี้จะเจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ที่คาดว่าจะยังคงเป็นเป้าหมายหลักของโจรในปี 2025 พร้อมนำเสนอแนวทางและมาตรการป้องกันที่ทันสมัย เพื่อให้เจ้าของรถสามารถปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าได้อย่างมั่นใจในยุคดิจิทัล
ภูมิทัศน์การโจรกรรมรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงในยุค 2025
ภัยคุกคามจากการโจรกรรมรถยนต์ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การงัดแงะหรือขโมยกุญแจรถอีกต่อไปแล้ว แต่ได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นทั้งเครื่องมือของโจรและเกราะป้องกันของเจ้าของรถยนต์อย่างแท้จริง การโจรกรรมรถยนต์แบบ Keyless ซึ่งเคยเป็นประเด็นร้อนในปี 2018 ได้พัฒนาจากเดิมที่เป็นเพียงการใช้เครื่องขยายสัญญาณ (Relay Attack) เพื่อดักจับและส่งต่อสัญญาณกุญแจรถ มาเป็นเทคนิคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
ในปี 2025 เราเริ่มเห็นการใช้ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พิเศษที่สามารถจำลองหรือโคลนสัญญาณกุญแจดิจิทัลได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ ทำให้การโจรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องรบกวนสัญญาณ (Signal Jammer) เพื่อปิดกั้นการทำงานของระบบติดตามรถยนต์ GPS หรือสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของรถอาจติดตั้งไว้ เพื่อให้การติดตามทำได้ยากขึ้น หรือแม้แต่การเจาะเข้าระบบ OBD (On-Board Diagnostics) ของรถยนต์เพื่อปลดล็อกประตูหรือสตาร์ทเครื่องยนต์โดยตรง ซึ่งมักเกิดขึ้นกับรถยนต์หรูที่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน
ไม่เพียงแค่นั้น ปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์รถยนต์ (Automotive Cybersecurity) ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น รถยนต์ยุคใหม่ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา (Connected Cars) หรือแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พึ่งพาระบบซอฟต์แวร์ในการควบคุมการทำงานต่างๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกแฮกผ่านช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการภายในรถยนต์ ทำให้โจรสามารถเข้าควบคุมฟังก์ชันบางอย่าง หรือแม้กระทั่งปลดล็อกรถได้จากระยะไกล ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงวิธีการที่โจรใช้และอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการวางแผนป้องกันที่ได้ผล
เจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ที่คาดว่าจะตกเป็นเป้าหมายสูงสุดในปี 2025
จากการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดรถยนต์ ความต้องการอะไหล่ และความซับซ้อนของระบบรักษาความปลอดภัยในรถยนต์แต่ละรุ่น ผมได้รวบรวม 10 อันดับรถยนต์ที่คาดว่าจะยังคงเป็น “ขวัญใจโจร” ในปี 2025 โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นรถยนต์หรูจากยุโรป ซึ่งมีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดมืดทั้งในและต่างประเทศ นี่คือรายชื่อและเหตุผลโดยละเอียด:
อันดับ 10. Mercedes-Benz GLE
รถยนต์ SUV สุดหรูจากค่ายดาวสามแฉก GLE ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำสมัยในรุ่นปี 2025 สิ่งเหล่านี้ทำให้ GLE ยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับโจร ด้วยความต้องการอะไหล่ที่มีมูลค่าสูงและการขายออกในตลาดมืดได้ง่าย โดยเฉพาะรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน มักจะมีช่องโหว่ที่มิจฉาชีพพยายามค้นหาเพื่อใช้เป็นทางเข้า
อันดับ 9. Mercedes-Benz S-Class
S-Class คือสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและนวัตกรรมยานยนต์ โจรเล็งเห็นถึงมูลค่าที่สูงลิบของรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดรถเถื่อนต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ต้องการรถยนต์หรูราคาถูก แม้จะมีระบบป้องกันการโจรกรรมที่ซับซ้อน แต่ความท้าทายในการเจาะระบบเหล่านี้กลับเป็นแรงจูงใจให้โจรระดับมืออาชีพพยายามเข้าถึงเพื่อตอบสนอง “ใบสั่ง” จากนอกประเทศที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
อันดับ 8. Range Rover Sport
ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น ความหรูหรา และสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือชั้น Range Rover Sport ยังคงดึงดูดทั้งผู้ซื้อและผู้ร้าย อะไหล่ของ Range Rover Sport โดยเฉพาะชิ้นส่วนตัวถังและระบบภายใน มีราคาสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดมืด ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ โจรมีความชำนาญในการปลดล็อกและสตาร์ทรถยนต์รุ่นนี้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยช่องโหว่จากระบบ Keyless ที่ซับซ้อน
อันดับ 7. Land Rover Discovery
รถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่และผู้ที่ต้องการความอเนกประสงค์ Land Rover Discovery ยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ โจรอาจมองเห็นโอกาสในการขโมยรถรุ่นนี้เพื่อนำไปจำหน่ายทั้งคัน หรือแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่ ซึ่งอะไหล่แท้ของ Land Rover มีมูลค่าสูงและหาได้ยากในตลาด ทำให้การโจรกรรมเพื่อจุดประสงค์นี้ยังคงมีอยู่
อันดับ 6. Range Rover Vogue
ในฐานะรุ่นท็อปสุดของ Range Rover โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Autobiography ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ยิ่งทำให้รถรุ่นนี้มีมูลค่ามหาศาล และเป็นที่ต้องการของโจรมากยิ่งขึ้น รายงานการโจรกรรมรถยนต์ในหลายพื้นที่ยังคงชี้ให้เห็นว่า Range Rover Vogue โดยเฉพาะรุ่นย่อยที่แพงที่สุด ยังคงถูก “สอย” ไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าที่สูงลิ่วและสามารถขายทำกำไรได้งาม
อันดับ 5. BMW 5-Series
BMW 5-Series ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในกลุ่มรถยนต์ที่ตกเป็นเป้าหมายในปี 2025 จากที่เคยไม่ติดอันดับ Top 10 ในปี 2017 แต่กลับทะยานขึ้นมาอยู่ใน Top 5 ได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น และอาจรวมถึงช่องโหว่ใหม่ๆ ที่โจรค้นพบในระบบรักษาความปลอดภัยของรุ่นนี้ 5-Series ในรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025 มาพร้อมเทคโนโลยีดิจิทัลมากมาย ซึ่งอาจกลายเป็นดาบสองคมได้
อันดับ 4. Mercedes-Benz E-Class
คู่ปรับตลอดกาลของ BMW 5-Series ในทุกๆ ด้าน E-Class ยังคงรักษาตำแหน่งในกลุ่มรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมากที่สุดเช่นกัน ด้วยความหรูหรา ความนิยม และมูลค่าในตลาดมือสองที่ยังคงสูง ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ยังคงเป็นเป้าหมายคลาสสิกของกลุ่มมิจฉาชีพ เทคนิคการโจรกรรม E-Class มักจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในระบบ Keyless หรือการเข้าถึงพอร์ต OBD เพื่อรีโปรแกรมกุญแจใหม่
อันดับ 3. BMW 3-Series
BMW 3-Series ยังคงเป็นรถยนต์ที่รักษามาตรฐานด้านรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนานไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวและผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ต ส่งผลให้มีความต้องการสูงทั้งในตลาดปกติและตลาดมืด โจรจึงยังคงให้ความสนใจกับรถยนต์รุ่นนี้ ด้วยจำนวนรถที่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสที่จะตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย
อันดับ 2. Mercedes-Benz C-Class
อดีตแชมป์เก่าจากปี 2017 ที่ตกลงมาอยู่อันดับ 2 แต่ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความน่าดึงดูดสำหรับโจร C-Class ยังคงเป็นรถยนต์ซีดานหรูขนาดคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยดีไซน์ที่ลงตัวและเทคโนโลยีที่ครบครัน โจรมีความเชี่ยวชาญในการเข้าถึงรถยนต์รุ่นนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากจำนวนรถที่ถูกจำหน่ายไปในตลาดมีจำนวนมาก ทำให้เทคนิคการโจรกรรมถูกพัฒนาและส่งต่อกันไปอย่างกว้างขวาง
อันดับ 1. BMW X5
BMW X5 กลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 1 อีกครั้ง หลังจากเคยพลาดท่าให้กับ Mercedes-Benz C-Class เมื่อหลายปีก่อน X5 ถือเป็นแชมป์เก่าที่ครองอันดับ 1 ยาวนานถึง 6 ปีซ้อนในช่วงปี 2009-2014 และกลับมารักษาแชมป์ได้อย่างเหนียวแน่นในปี 2016 และ 2018 และคาดว่าจะยังคงเป็นอันดับ 1 ในปี 2025 นี้ ด้วยความที่เป็นรถยนต์ SUV หรูขนาดใหญ่ที่มีความต้องการสูงทั้งคันและอะไหล่ การโจรกรรม X5 มักทำเพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ หรือนำไปแยกชิ้นส่วนเพื่อขายอะไหล่ ซึ่งทำกำไรได้มหาศาล และโจรมีความชำนาญในการเจาะระบบรักษาความปลอดภัยของ X5 เป็นอย่างดี
ทำไมรถยนต์เหล่านี้จึงยังคงเป็น “ขวัญใจโจร” ในปี 2025?
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง แต่เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้รถยนต์หรู โดยเฉพาะจากค่ายเยอรมัน ยังคงเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของการโจรกรรมในปี 2025 สามารถสรุปได้ดังนี้:
มูลค่าสูงและการขายคล่องในตลาดมืด: รถยนต์พรีเมียมเหล่านี้มีราคาขายต่อที่สูงลิบ ทำให้โจรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงมือ อะไหล่รถยนต์แท้จากแบรนด์เหล่านี้ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดมืด ทำให้สามารถถอดแยกชิ้นส่วนขายได้ราคาดี การส่งออกรถยนต์ผิดกฎหมายไปยังประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศที่สามก็เป็นอีกช่องทางหลักในการทำกำไร
เทคโนโลยีที่ดาบสองคม: ระบบ Keyless Entry/Start, ระบบ Infotainment อัจฉริยะ, และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของรถยนต์ (Connected Car features) ที่เป็นจุดเด่น กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่โจรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสามารถใช้ประโยชน์จากการแฮกรถยนต์ หรือการจำลองสัญญาณเพื่อเข้าถึงรถได้ง่ายขึ้น การอัปเดตซอฟต์แวร์รถยนต์ที่ไม่สม่ำเสมอ หรือช่องโหว่ที่ยังไม่ถูกแก้ไข เป็นโอกาสของมิจฉาชีพ
ความต้องการอะไหล่หายากและราคาแพง: อะไหล่แท้ของรถยนต์หรูมักมีราคาแพงและต้องใช้เวลานานในการสั่งซื้อ ทำให้ตลาดอะไหล่เถื่อนเฟื่องฟู การขโมยรถเพื่อนำไปแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่จึงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีสำหรับกลุ่มอาชญากร
กลุ่มอาชญากรที่มีเครือข่ายระดับสากล: การโจรกรรมรถยนต์หรูมักดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ มีเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่ถูกขโมยออกนอกประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
มาตรการป้องกันรถยนต์ถูกโจรกรรมในยุคดิจิทัล 2025
ในเมื่อภัยคุกคามจากการโจรกรรมรถยนต์เปลี่ยนแปลงไป การป้องกันก็ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในฐานะเจ้าของรถยนต์ เรามีหลายวิธีที่สามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยง:
ติดตั้งระบบติดตามรถยนต์ GPS คุณภาพสูง: ระบบติดตามรถยนต์ GPS (Global Positioning System) ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันและตามหารถคืนมาได้ ตัวเลือกในปี 2025 มีความล้ำหน้ามากขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบตำแหน่งรถ กำหนดพื้นที่หวงห้าม (Geo-fencing) และได้รับการแจ้งเตือนทันทีหากรถมีการเคลื่อนที่ผิดปกติ ควรเลือกระบบที่มีแบตเตอรี่สำรองและสัญญาณที่เสถียร รวมถึงมีความสามารถในการป้องกันการรบกวนสัญญาณ (Anti-Jamming)
ปกป้องกุญแจ Keyless ด้วยกล่อง Faraday หรือซองกันสัญญาณ: สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ Keyless Entry โจรใช้เทคนิค Relay Attack ในการขยายสัญญาณจากกุญแจที่อยู่ภายในบ้านของคุณ การจัดเก็บกุญแจรถไว้ในกล่อง Faraday หรือซองกันสัญญาณที่ทำจากวัสดุพิเศษ จะช่วยบล็อกสัญญาณวิทยุจากกุญแจ ทำให้โจรไม่สามารถดักจับและขยายสัญญาณได้ ควรวางกุญแจให้ห่างจากประตู หน้าต่าง และกำแพงด้านนอกบ้าน
พิจารณาติดตั้งระบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมยเพิ่มเติม: แม้รถยนต์ใหม่จะมีระบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมยมาตรฐานมาให้ แต่การติดตั้งระบบเสริมจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง ซึ่งอาจมีฟังก์ชันการตัดสตาร์ท การแจ้งเตือนผ่านมือถือ หรือระบบเซ็นเซอร์ที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น จะช่วยเพิ่มชั้นของการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้น
ใช้ล็อคพวงมาลัยหรือล็อคล้อแบบเสริม: แม้จะดูเป็นวิธีที่คลาสสิก แต่ล็อคพวงมาลัยหรือล็อคล้อแบบกายภาพยังคงเป็นเครื่องมือที่ช่วยถ่วงเวลาและยับยั้งโจรได้ โจรส่วนใหญ่ต้องการความรวดเร็ว หากเห็นว่ารถมีอุปกรณ์ป้องกันหลายชั้น อาจเลือกเป้าหมายที่ง่ายกว่า
อัปเดตซอฟต์แวร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ: รถยนต์สมัยใหม่เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ การอัปเดตเฟิร์มแวร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ จะช่วยแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจถูกค้นพบ และป้องกันการแฮกเข้าระบบรถยนต์
เพิ่มความปลอดภัยในสถานที่จอดรถ: หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ มีกล้องวงจรปิด หรือระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ การติดตั้งกล้องติดรถยนต์ที่มีโหมดบันทึกเมื่อจอด (Parking Mode) ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยได้
การไม่ทิ้งทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถ: หลีกเลี่ยงการทิ้งกระเป๋า คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาแพงไว้ในรถ เนื่องจากอาจล่อตาล่อใจให้โจรพยายามงัดรถเพื่อขโมยสิ่งของ แม้จะไม่ได้ตั้งใจขโมยรถก็ตาม
พฤติกรรมความตระหนักรู้ของเจ้าของรถ: ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าได้ล็อครถอย่างถูกต้องทุกครั้ง ไม่ควรปล่อยรถไว้โดยไม่มีคนดูแลเป็นเวลานานในที่เปลี่ยว หรือจอดรถในบริเวณที่คุ้นเคยเพียงแค่ไม่กี่นาทีแล้วคิดว่าปลอดภัย เพราะนั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่โจรเฝ้ารอคอย
เลือกประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมการโจรกรรม: นี่คือปราการด่านสุดท้าย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมความเสียหายจากการโจรกรรม จะช่วยลดภาระทางการเงินได้อย่างมหาศาล หากรถของคุณตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมจริงๆ ควรพิจารณาแผนประกันที่มีเงื่อนไขชัดเจนและน่าเชื่อถือ
บทสรุป
การโจรกรรมรถยนต์ยังคงเป็นภัยคุกคามที่พัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยี การทำความเข้าใจถึงวิธีการที่โจรใช้และรถยนต์รุ่นใดที่ตกเป็นเป้าหมายหลักในปี 2025 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการป้องกันที่ได้ผล รถยนต์หรูยังคงเป็น “ขวัญใจโจร” ด้วยมูลค่าที่สูงและความต้องการในตลาดมืด แต่ด้วยมาตรการป้องกันที่ทันสมัย เช่น ระบบติดตามรถยนต์ GPS, การใช้กล่อง Faraday, การอัปเดตซอฟต์แวร์รถยนต์ และความตระหนักรู้ของเจ้าของรถ เราสามารถเพิ่มโอกาสในการปกป้องทรัพย์สินของเราได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากข้อมูลในปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำงานอย่างหนักและประสบความสำเร็จในการจับกุมผู้ต้องสงสัยและติดตามรถยนต์กลับคืนมาได้หลายคัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของเจ้าของรถที่ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยหรือระบบติดตามที่ดี ทำให้การตามตัวเจอและนำไปสู่การจับกุมขบวนการโจรกรรมได้
อย่าประมาท! ความปลอดภัยของรถยนต์ของคุณเริ่มต้นที่ตัวคุณเอง ฉะนั้นแล้ว จงล็อครถให้ดี ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่จะไม่มีรถให้ล็อค!

